วันที่ 10 พฤศจิกายน 2567 นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และโฆษกศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม (ศปช.) เปิดเผยว่า ที่ประชุม ศปช. รับทราบการรายงานการเคลื่อนตัวพายุไต้ฝุ่น “หยินซิ่ง” บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบนที่กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกค่อนทางเหนือเล็กน้อย และคาดว่าจะเคลื่อนเข้าใกล้ตอนใต้ของเกาะไหหลำ ประเทศจีน และชายฝั่งประเทศเวียดนามตอนกลางในช่วงวันที่ 11-12 พฤศจิกายน 2567 จะอ่อนกำลังลงเป็นพายุโซนร้อน พายุดีเปรสชัน และหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงตามลำดับ

สำหรับพายุไต้ฝุ่นหยินซิ่ง จะไม่เคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทย ขอให้ประชาชนในพื้นที่ภาคใต้เฝ้าระวังในส่วนของผลกระทบจากร่องมรสุมพาดผ่านภาคใต้ตอนล่าง และประกอบกับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังปานกลางพัดปกคลุมอ่าวไทยตอนบน ทำให้มีฝนตกหนักถึงหนักมากในพื้นที่บางแห่ง

ทั้งนี้ กรมทรัพยากรธรณีขอให้ประชาชนในพื้นที่ภาคใต้ บริเวณ 8 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ยะลา นราธิวาส และปัตตานี เฝ้าระวังสถานการณ์ฝนตกสะสมในช่วงวันที่ 11-12 พฤศจิกายนนี้ ที่อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม

ทางด้านสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ รายงานต่อที่ประชุม ศปช. ประกาศเฝ้าระวังอ่างเก็บน้ำมากในพื้นที่ภาคใต้ จำนวน 7 แห่ง ซึ่งเป็นอ่างเก็บน้ำขนาดกลาง 6 แห่ง ที่มีน้ำมาก (80-100%) ได้แก่ อ่างเก็บน้ำบางกำปรัด อ่างเก็บน้ำบางวาด อ่างเก็บน้ำบางเหนียวดำ อ่างเก็บน้ำคลองกะทะ ขณะที่อ่างเก็บน้ำที่มีน้ำมาก (มากกว่า 100%) 2 แห่ง ได้แก่ อ่างเก็บน้ำห้วยลึก อ่างเก็บน้ำคลองหยา และอ่างเก็บน้ำขนาดเล็ก 1 แห่ง ที่มีน้ำมาก (80-100%) อ่างเก็บน้ำคลองสวนหนัง

ในช่วงท้าย นายจิรายุ กล่าวเพิ่มเติมว่า กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้เตรียมตรวจความพร้อมเฮลิคอปเตอร์ KA-32 ในการช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ภาคใต้หากเกิดภัยพิบัติขึ้นมา.