รวบนักร้องสาวชาวมาเลย์ พร้อมยาบ้ากว่า กว่า 6 พันเม็ด

รวบนักร้องสาวชาวมาเลย์ พร้อมยาบ้ากว่า กว่า 6 พันเม็ด

วันที่ 4 พ.ย. 67 พ.ต.ท.นิติ สุขสันต์ รอง ผกก.ป.สภ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส ได้ระดมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจหน่วยปฏิบัติการพิเศษ และฝ่ายป้องกันและปราบปรามจำนวนกว่า 50 นาย ในการควบคุมฝูงชน ซึ่งเป็นแฟนเพลงและเครือญาติจำนวนกว่า 100 คน ที่เดินทางข้ามแดนมาจากรัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซีย เพื่อเข้าเยี่ยมและให้กำลังใจแก่ น.ส.วันโนรชาฮีดาอัซลิน บินตีวันอิสมาอีล อายุ 28 ปี สัญชาติมาเลเซีย ซึ่งเป็นนักร้องดังขวัญใจวัยรุ่น เจ้าของผลงานเพลง CINTA SETANDAN PISANG หรือ แบซอบาซอ ซึ่งแปลเป็นไทยคือเพลงใจเย็น ๆ ปัจจุบันมียอดวิวสูงกว่า 23 ล้านวิว

ซึ่งถูกจับกุมพร้อมพวกรวม 6 คน ประกอบด้วย 1. นายโมฮัมหมัดอาลิฟ บินดือรามัน อายุ 32 ปี สัญชาติมาเลเซีย 2. นายโมฮัมหมัดอาเฟนดี บินอะห์หมัด อายุ 34 ปี สัญชาติมาเลเซีย 3. น.ส.นูรไอดา บินตีมามัต อายุ 32 ปี สัญชาติมาเลเซีย4. นายเอดีกา บินโมฮัมหมัดนูร อายุ 31 ปี สัญชาติมาเลเซีย 5. น.ส.ซูไฮรา นัสริน อายุ 25 ปี สัญชาติมาเลเซีย

ทั้งนี้ สำหรับของกลางพบยาบ้าจำนวน 6,060 เม็ด ภายในห้องพักเลขที่ 814 โรงแรมเก็นติ้ง ต.สุไหงโก-ลก อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส เมื่อวันที่ 1 พ.ย. 67 เวลา 03.30 น. ซึ่งในวันนี้ พ.ต.ต.ฮาฟิต หมัดอาสิน สารวัตรสอบสวน สภ.สุไหงโก-ลก ได้ควบคุมตัว น.ส.วันโนรชาฮีดาอัซลิน บินตีวันอิสมาอีล นักร้องดัง และพวกรวม 6 คน ส่งฟ้องศาลจังหวัดนราธิวาส  ซึ่งบรรยากาศตั้งแต่ช่วงเช้า มีแฟนเพลงและเครือญาติได้เดินทางมาเยี่ยมให้กำลังใจอย่างไม่ขาดสาย

โดยมีญาติที่เป็นคนสูงอายุ 1 ราย ถึงกับเป็นลมฟุบอยู่ที่บริเวณหน้าบันไดทางขึ้นของ สภ.สุไหงโก-ลก เจ้าหน้าที่ต้องประสานเจ้าหน้าที่มูลนิธิกู้ภัยเซิ่งหมู่ธารน้ำใจสุไหงโก-ลก มาช่วยปฐมพยาบาลจนอาการดีขึ้น และในช่วงที่เจ้าหน้าที่ควบคุมตัว น.ส.วันโนรชาฮีดาอัซลิน บินตีวันอิสมาอีล นักร้องดังและพวก รวม 6 คน ส่งฟ้องศาลจังหวัดนราธิวาส นั้น เจ้าหน้าที่ต้องยืนกันฝูงชนให้ออกห่าง ก่อนที่จะนำตัว น.ส.วันโนรชาฮีดาอัซลิน บินตีวันอิสมาอีล นักร้องดังและพวกรวม 6 คน ที่สวมหมวกคลุมศีรษะและสวมแว่นดำอำพรางใบหน้า ควบคุมตัวขึ้นรถยนต์ด้วยความเรียบร้อย

สำหรับคดีนี้ถือว่าเป็นคดีใหญ่ในพื้นที่ประเทศมาเลเซีย เนื่องจากตั้งแต่ช่วงเช้า ได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจประเทศมาเลเซียจำนวนหนึ่ง ที่แต่งกายนอกเครื่องแบบ เดินทางมาสังเกตการณ์ที่ สภ.สุไหงโก-ลก พร้อมด้วยสื่อมวลชนของประเทศมาเลเซีย ได้เดินทางมาบันทึกภาพเพื่อนำไปเสนอข่าวที่ได้รับความสนใจของพี่น้องประชาชนชาวมาเลเซีย และจากการสอบถามพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ตำรวจประเทศมาเลเซีย สามารถจับใจความที่สำคัญได้ว่า ทางการประเทศมาเลเซียได้พยายามติดตามจับกุมบุคคลภายในกลุ่มดังกล่าว ที่มีพฤติกรรมพัวพันและเกี่ยวข้องกับยาเสพติดมานานแล้ว และเมื่อทราบว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สุไหโก-ลก จับบุคคลดังกล่าวที่มีอยู่ภายในกลุ่ม จึงได้เดินทางข้ามแดนมาตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น

ด้านแหล่งข่าวจากเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.สุไหงโก-ลก นายหนึ่ง เปิดเผยเป็นการส่วนตัวว่า จากกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมตัวบุคคลทั้ง 6 พร้อมของกลางยาบ้า เมื่อได้ควบคุมตัวมาสอบสวนในเบื้องต้น ยังไม่มีผู้ใดให้การรับสารภาพว่าเป็นเจ้าของยาบ้าดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานส่งฟ้องศาล โดยให้แต่ละคนไปให้การต่อศาล ว่าข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ยาบ้าเป็นของผู้ใด และการควบคุมตัวบุคคลทั้ง 6 ในครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจสอบสารเสพติด พบว่าบุคคลทั้ง 6 ฉี่เป็นสีม่วง เจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งข้อกล่าวดำเนินคดีในข้อหา 1. ร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า)

โดยการมีไว้เพื่อจำหน่ายโดยกระทำเพื่อการค้า 2. เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) โดยผิดกฎหมาย แต่ถึงอย่างไรก็ตาม ในส่วนของ นายเอดีกา บินโมฮัมหมัดนูร และ น.ส.ซูไฮรา นัสริน เจ้าหน้าที่ได้แจ้งดำเนินคดีเป็นการเพิ่มเติมอีก 1 ข้อหา คือ เป็นบุคคลต่างด้าวเดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรไทยโดยไม่ได้รับอนุญาต เนื่องจากหนังสือเดินทาง ไม่ได้มีการประทับตราจากเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองของทั้ง 2 ประเทศ (ไทย-มาเลเซีย) เหมือนกับบุคคลอีก 4 คน ที่มีการขออนุญาตเดินทางเข้าประเทศโดยถูกต้อง

ด้านแหล่งข่าวเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.สุไหงโก-ลก นายหนึ่ง เปิดเผยเป็นการส่วนตัวว่า จากกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมตัวบุคคลทั้ง 6 พร้อมของกลางยาบ้า เมื่อได้ควบคุมตัวมาสอบสวนในเบื้องต้น ยังไม่มีผู้ใดให้การรับสารภาพว่าเป็นเจ้าของยาบ้าดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานส่งฟ้องศาล โดยให้แต่ละคนไปให้การต่อศาล ว่าข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ยาบ้าเป็นของผู้ใด และการควบคุมตัวบุคคลทั้ง 6 ในครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจสอบสารเสพติด พบว่าบุคคลทั้ง 6 ฉี่เป็นสีม่วง เจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งข้อกล่าวดำเนินคดีในข้อหา 1. ร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) โดยการมีไว้เพื่อจำหน่ายโดยกระทำเพื่อการค้า 2. เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) โดยผิดกฎหมาย

แต่ถึงอย่างไรก็ตามในส่วนของ นายเอดีกา บินโมฮัมหมัดนูร (MR.ERDIEKA BIN MOHD NOOR) และ . น.ส.ซูไฮรา นัสริน (MISS.ZUHAIRA NASRIN) เจ้าหน้าที่ได้แจ้งดำเนินคดีเป็นการเพิ่มเติมอีก 1 ข้อหา คือ เป็นบุคคลต่างด้าวเดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรไทยโดยไม่ได้รับอนุญาต เนื่องจากหนังสือเดินทางไม่ได้มีการประทับตราจากเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองของทั้ง 2 ฟากฝั่งไทยมาเลเซีย เหมือนกับบุคคลอีก 4 คน ที่มีการขออนุญาตเดินทางเข้าประเทศโดยถูกต้อง

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ