วันที่ 30 ตุลาคม 2567 ทางดีเจเคนโด้ เกรียงไกรมาศ พจนสุนทร เปิดใจที่ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) เกี่ยวกับปมดิไอคอนกรุ๊ป หลังมีข่าวว่าบอสพอล สั่งทนายจากในเรือนจำให้แจ้งความเอาผิดฐานเป็นอดีตพรีเซนเตอร์และได้รับผลประโยชน์จากบริษัทพอๆกับ กันต์ กันตถาวร แต่ไม่มีชื่อเป็นผู้ร่วมกระทำผิด

โดย เผยว่า เคยเจอทนายคนไหนจะดำเนินคดีกับใครแล้วต้องมาแจ้งออกสื่อหรือไม่ ส่วนนี้จะเข้าข่ายความผิดม. 392 หรือไม่ และการที่เปิดเผยชื่อตนทำให้ตนเสียหาย ต้องเรียนว่าทุกความเสียหายตนคิดเป็นเงินหมด ตนไม่ประหลาดใจที่มีการเปิดชื่อตัวเองและจะดำเนินคดีกับตน เพราะตนอยู่ฝั่งผู้เสียหายซึ่งเป็นฝั่งตรงข้ามกับดิไอคอนมาตั้งแต่ต้น

ส่วนคลิปที่มีการเผยแพร่ผ่านโซเชียลขณะนี้ ที่ปรากฏภาพตนขึ้นเวทีและพูดตามสื่อต่างๆในลักษณะชื่นชมดิไอคอนนั้น เป็นช่วงเวลาปี 62 ที่ตนยังได้ทำงานร่วมกับดิไอคอนอยู่ แต่ต้องเรียนว่าในตอนนั้นบริษัทดิไอคอน ยังดำเนินการอย่างถูกต้อง ไม่มีผู้เสียหายแต่อย่างใด ซึ่งตนร่วมงานมาเป็นเวลากว่า 1 ปี แต่เมื่อตนทราบว่าธุรกิจดังกล่าวไม่ถูกต้อง เนื่องจากเข้าข่ายแชร์ลูกโซ่ ตนจึงตัดสินใจลาออกตั้งแต่เดือนมิ.ย. 64

ระหว่างการร่วมงานตนทำในตำแหน่งที่ปรึกษาด้านความถูกต้อง ซึ่งในสัญญาก็มีการบ่งบอกอย่างชัดเจน ยืนยันว่าตนไม่ใช่พรีเซนเตอร์แน่นอน และรายได้ต่อเดือนน้อยกว่ารายได้ที่ตนเป็นผู้ประกาศข่าว ซึ่งไม่ถึง 3 แสนบาท

โดยตนได้มีการเข้าให้การกับตำรวจในฐานะพยานไปแล้วตั้งแต่เมื่อวันจันทร์ที่ 28 ต.ค. 67 ที่ผ่านมา โดยมีการสอบปากคำตนร่วม 6 ชม. ยืนยันว่าตนไม่ได้มีความเกี่ยวข้องในการกระทำความผิดของดิไอคอนกรุ๊ปแน่นอน หากตนมีความผิดจริงตำรวจก็คงจับตนไปนานแล้วและคงไม่กล้ามาโผล่ที่นี่