กบ ไมโคร รับเครียดกังวล หลังทนายบอสพอลออกมา เปิดรายชื่อแม่ทีมดิไอคอน ที่จะไม่ทิ้งไว้ข้างหลัง

กบ ไมโคร รับเครียดกังวล หลังทนายบอสพอลออกมา เปิดรายชื่อแม่ทีมดิไอคอน ที่จะไม่ทิ้งไว้ข้างหลัง

จากกรณีที่ก่อนหน้านั้น ทาง นายวิฑูรย์ เก่งงาน ทนายความบอสพอล ให้สัมภาษณ์หลังเข้าเยี่ยมภายในเรือนจำ ว่า วันนี้ได้แจ้งกับบอสพอล ว่าคดีจะมีการโอนไปที่ดีเอสไอ ยืนยันไม่หนักใจ แค่เปลี่ยนคนสรุปสำนวนคดี ส่วนการยื่นประกันตัว คาดว่าจะชัดเจนสัปดาห์หน้า ทั้งนี้ บอสพอล ได้สั่งให้ทำหนังสือกล่าวโทษแม่ทีมที่ตีเนียนเป็นผู้เสียหาย

โดย เบื้องต้น 5 คนนั้น ประกอบด้วย ฮัท ทินกร , ลูกตาล ชลธิชา , กบ ไมโคร , หนึ่งฟ้า และ อโณทัย ยืนยันไม่ปล่อยใครไว้ข้างนอก ถ้าเราผิดคุณก็ต้องผิดเหมือนกัน เผยมีหลักฐานได้กำไรหลายล้าน จะมานั่งลอยหน้าลอยตาเป็นผู้เสียหายไม่ได้ ต้องมีสถานะเป็นผู้ต้องหาเท่านั้น

ล่าสุด กบ ไมโคร ได้ไปออกรายการายการโหนกระแส เพื่อนำหลักฐานมาชี้แจง ก่อนจะออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อหลังจบรายการ ยอมรับว่าเครียดและกังวล แต่อะไรจะเกิดก็ต้องเกิดเผยว่า ก็เครียดนะ เพราะเราไม่รู้ว่าวิธีการสร้างเรื่องที่จะส่งเข้าไปใน DSI เนี่ย จะแบบไหน คือเรื่องพวกนี้เราไม่คุ้นเคย แล้วสิ่งที่เราทำได้ตอนนี้คือเตรียมเอกสารที่คิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์ แล้วก็เตรียมพร้อมให้ความร่วมมือกับ DSI ตลอดเวลา ถ้าเชิญตัวเมื่อไหร่ ภายในชั่วโมงเดียวต้องถึงครับ ทางคุณทนายเขาก็บอกว่าพี่ ความจริงเท่านั้น แล้วก็เตรียมเอกสารให้พร้อม ส่วนตัวเลขที่เขาบอกว่า 150 คนก็ไม่ใช่นะครับ เรามีผู้ซื้อกินใช้อยู่ 60 คน คนที่เป็นซุปเปอร์ไวเซอร์ 25,000 บาทอยู่ 7 คน แล้วก็มีดีลเลอร์ 8 คน รวมตัวเลยแล้วอยู่ที่ 60-75 คน แต่เมื่อกี้คุณทนายเขาบอกว่าไปชี้แจงเอา มันเป็นระบบกล่าวหาที่เขาตั้งขึ้นมา เราก็ต้องไปชี้แจงโดยเอกสารทั้งหมด

ไม่รู้ทนายฝั่งโน่นเอามาจากไหน ว่ามีลูกทีมร้อยกว่าคน

ไม่รู้ครับ เพราะถ้าเอาข้อมูลตรงๆ มา จะรู้ว่าเรามีอยู่แค่ 75 คน คนซื้อกินใช้ 60 คน คนที่ลองใช้และลองทำธุรกิจ 7 คน นอกนั้นเป็นคนที่รักที่มีอยู่ 8 คน ตัดสินใจเปิดบิลเข้ามาโดยไม่ได้ชักชวน บอกว่าอยากอยู่กับพี่กบ ถามว่ามีหลักฐานใช่ไหม เขามอบอำนาจให้ผมมาดูแลเรื่องคดีความครับ ซึ่งทั้งหมดไม่ได้มีใครกล่าวโทษเราครับ (ทนายบอกว่าอันนั้นตีเป็นรายได้ เพราะบริษัทมีการแบ่งรายได้ให้แม่ข่าย?) รายได้ของผมมีอยู่ 600,000 บาท แต่จริงๆ มันเป็นระบบแคลชแบ็ก เป็นเงินเราที่ถอนมากลับมาด้วยอัตส่วนอะไรก็ไม่รู้ล่ะ แต่เป็นรายได้จริงๆ อยู่ 450,000 บาท

ในขณะที่เงินลงทุนที่เปิดบิล เฉพาะเรากับภรรยา รวมถึงพี่สาวพี่ชายและญาติทั้งหมด 210,000 กว่าบาท แต่ในข้อกล่าวหาที่เขาตั้งเรื่องชงมาตั้งแต่เมื่อวาน บอกว่าพวกนี้ได้เป็นล้าน เราก็ต้องเอารายได้จริงทั้งหมดไปโชว์ ว่ามันไม่ใช่ ถามว่าส่งสำนวนไปที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ เรากังวลไหม ก็ไม่มีความเห็นครับ เพราะเราไม่รู้จัก ตอนนี้ยังไม่ได้รับการติดต่อมา เพราะเราไปแจ้งความ ไปสอบสวนกลางมาครบแล้ว จากนี้ก็พร้อมให้ความร่วมมือทุกอย่าง

การที่ทนายออกมาลากแม่ข่ายเป็นผู้ต้องหาร่วม ถามว่าเรารู้สึกยังไง จริงๆ เขาก็พูดชัดเจนนะ ว่าเป็นกลุ่มเป้าหมาย จาก 5 มาเป็น 8 แล้วตอนนี้เริ่มโยนตัวเลขมาว่าแสน เราก็ไม่รู้สิ คนที่หาทางต่อสู้ เขาก็คงทำทุกทางคิดว่าเขาพยายามข่มขู่ ไม่ให้กลุ่มพยานที่เป็นแม่ข่าย เข้ามาให้การไหม ถ้าโดยความรู้สึกนะ มันเป็นเอฟเฟกต์แน่ มันมีเอฟเฟกต์ต่อคนที่ทำงานทั้งหมด ที่กลายเป็นผู้เสียหาย อาจจะทำให้เกิดอาการกลัวและรีบถอนแจ้งความหรือเปล่า จะไปขอเยียวยาแทนหรือเปล่า อันนี้ต้องตามดูปฏิกิริยาต่อเนื่อง”

พร้อมยอมรับผลการตัดสิน อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด

ถ้าเอาใจลึกๆ นะ อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด เราตรงไปตรงมา วันนั้นถ้าศาลท่านพิจารณาว่าผิด เราก็มีเอกสารยืนยัน ถ้าเขาบอกว่ายังไงก็ผิด ก็ตรงไปตรงมา ถามว่าคิดยังไงกับคำว่าฟอกขาว กลับตัวไม่ทันสุดท้ายก็โดนถูกลากเข้าคุกอยู่ดี มันฟอกไม่ได้หรอก ถ้ามันไม่จริง เดี๋ยวมันก็ออก มันฟอกไม่ได้ ส่วนเรื่องการกลับตัว เราก็ยืนยันว่าเราเป็นคนเริ่มต้องหยุด เพราะไม่อยากให้ใครมาบาดเจ็บล้มตาย อย่างที่เราดูข่าวว่ามีคนล้มละลาย ฆ่าตัวตาย ซึ่งตอนนั้นเป็นแค่เรื่องได้ยินมา แต่วันนี้มันหนักหนากว่ามาก

ถามว่ากลัวไหมว่าคนที่อยู่ข้างเรา จะเปลี่ยนข้างมาดำเนินคดีกับเรา ยังไม่กล้าคิดถึงขั้นนั้นเลยครับ ยังไม่รู้เลย ถ้ามีก็ต้องว่ากันต่อไป ส่วนคำที่เขาบอกว่าถ้าเขาโชคร้าย ก็จะไม่ปล่อยให้คนอื่นลอยตัว ทุกคนมีสิทธิ์พูดอะไรก็ได้ เราไม่มีความเห็น ส่วนเป็นเกมของทนายไหม เป็นใครก็ต้องทำ ทำทุกวิถีทาง ที่เขาเลือกเราก่อน เพราะเราอาจจะเป็นกลุ่มแรกที่ลุกขึ้นมาพูด ไม่รู้เป็นการเชือดไก่ให้ลิงดูหรือเปล่า ต้องตอบว่าถ้าอะไรที่พอเดาได้ เราก็จะเดา แต่ไม่รู้ว่าวิธีคิดเขาคิดแบบไหนครับ

ถามว่ารู้สึกไม่ยุติธรรมหรือเปล่า จริงๆ สมาชิก 3 แสนกว่าคน เราอยู่ที่ 290,000 สังคมยังไปไม่ถึงคำว่าระดับทางธุรกิจ จากล่างสุดเราอยู่พื้นเลย คนที่อยู่บนสุดคือพวกที่ได้ 50 ล้านอัป พวกนี้เป็นพวกมีผลประโยชน์จากการทำธุรกิจ แต่สังคมยังไม่เคยได้ยินเรื่องนี้ เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญที่สุด ว่าคนที่ได้ประโยชน์จากธุรกิจนี้ ขณะนี้ยังเหลืออีกเยอะที่ยังไม่ได้คุยกัน

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ