เชอรีน เปิดใจผ่านรายการ ปมความรักในอดีต ถูกทำร้ายร่างกาย อดทนมาตลอด
เรียกได้ว่า เป็นนักร้องสาว อย่าง เชอรีน ณัฐจา น้องสาวของ นิชคุณ หรเวชกุล ที่ก่อนหน้านั้นได้ออกมาเปิดใจผ่าน GoyNattyDream Channel EP. 100 พร้อมกับเล่า ว่าอยู่ในวงการมา 11 ปี ตอนประกวดเดอะสตาร์ 9 เพิ่งจะอายุ 18 ตอนนี้อายุ 30 ปีแล้ว พร้อมอัปเดตถึงเรื่องความรัก ที่เจ้าตัวแซวเองว่า "มีเวลา 3 วันพอไหม (หัวเราะ)
ยอมรับว่ามีลูกก็ยังเที่ยวอยู่ ครึ่งนึงให้เขา อีกครึ่งนึงยังเหลือของเรา เพราะวันนึงถ้าเขาโตขึ้น เราจะไม่เหลือชีวิตของเราแล้ว เราก็แบ่งเวลาได้ โสดสนิท โสดมาก ถ้ามีคนเข้ามาก็เปิดตลอดนะ แต่มันไม่ค่อยมี สเปกเมื่อก่อนชอบก็คือชอบ เจอแล้วถูกใจ คุยแล้วจบ แต่เดี๋ยวนี้เราจะมีลิสต์ของตัวเองที่เพิ่มมากขึ้น เพราะมันผ่านอะไรหลายๆ อย่างมา เราโตขึ้น และเราก็มีลูกแล้ว ไม่ได้แค่ชอบแล้วคบเหมือนตอนเด็กๆ แต่เราต้องคิดถึงลูกด้วย ต้องแสกนมากขึ้นกับคนที่เข้ามาในชีวิตของเรา
สเปกที่นั่งลิสต์มีประมาณ 32 ข้อ แต่หลักๆ 3 ข้อคือ 1.ชอบผู้ชายสะอาด 2.ชอบคนใจเย็น มีเหตุผล เหมือนรู้สึกว่าที่ผ่านมาในชีวิต เราเริ่มเข้าใจแล้วว่าความสัมพันธ์เวลาเราคบกัน มีปัญหาอะไรก็ต้องคุย คนที่สามารถจะสื่อสารกับเราได้คือต้องใช้เหตุผลและใจเย็น ถ้าใจร้อนมันคุยกันไม่ได้ ชีวิตคู่คือการสื่อสารกันไปเรื่อยๆ ปรับเปลี่ยนกันตลอดเวลา 3.เข้ากับคนรอบตัวเราได้ เพื่อนฝูง ครอบครัว สำคัญมาก เพราะทุกคนมีเพื่อน ไม่สามารถที่จะอยู่กัน 2 คนได้ ยังไงก็ต้องเอาคนที่เข้ากับคนรอบตัวได้
ทุกวันนี้มันจะมีความสัมพันธ์แบบ Gaslighting (การปั่นหัวให้อีกฝ่ายสับสนกับความเป็นจริง) เคยเจอผู้ชายประมาณนี้ ทำให้เรารู้สึกว่าผิดเหรอ ไม่ดีหรือเปล่า ?
ผิดทุกอย่าง ผิดทุกเรื่อง บางทีเราแค่รีเอกชั่นจากสิ่งที่เขาทำไม่ดีจากเรา เขาก็จะบอกว่าเป็นเพราะเธอคิดมาก เธอไม่โอเคเองหรือเปล่า
พอเราเริ่มรักตัวเอง เราก็เริ่มเอาตัวเองออกมาจากความสัมพันธ์แบบนั้น เพราะที่ผ่านมาที่โดนอะไรพวกนี้ รู้เลยว่าเราไม่รักตัวเอง เราก็เลยยอมให้เขาเราได้ และเราเป็นคนชอบโทษตัวเองอยู่แล้วเป็นอันดับแรก อะไรๆ ก็เราผิดแหละ โอเคเราผิดเอง เรารับไว้เอง จะได้ไม่ทะเลาะกันใหญ่โต พอเราเริ่มคิดได้ว่าเราไม่ผิดนี่ ก็ค่อยๆ สำรวจตัวเองว่า ใช่ไหม หลายๆ รอบก็พอแล้ว จบ การที่เราไม่โอเคกับสิ่งที่เขากระทำ มันก็เป็นสิทธิ์ของเราเหมือนกัน
บทเรียนที่สำคัญที่สุดในความรักครั้งที่ผ่านมา ?
คำเมื่อกี้เลย คือรักตัวเอง ถ้าเราไม่รักตัวเอง เราจะปล่อยให้ใครทำอะไรกับเราก็ได้ ถ้าเรารักตัวเอง เราจะรู้ว่าเราต้องการอะไร ความรู้สึกเรามีค่าแค่ไหน แล้วเราควรที่จะจัดการกับปัญหานี้ยังไงที่เราโอเคและเร็วที่สุด แล้วเราต้องไม่ไปเบียดเบียนเขาด้วยนะ ไม่ใช่รักตัวเองจนแบบว่าจะทำอะไรกับเขาก็ได้ อันนั้นก็ไม่ถูก"
เหตุการณ์ที่ไม่รักตัวเองที่สุด ?
ก็น่าจะเป็นเหตุการณ์แบบในข่าวแหละ ที่โดนทำร้ายร่างกายแล้วยังยอม ยังอยู่ต่อ คือจริงๆ มันด้วยปัจจัยเยอะเนอะ เรามีลูก ไม่รู้ว่าหลายคนเป็นหรือเปล่า พอเรามีลูกเราก็จะคิดเยอะนิดนึงกับการที่จะเลิกกับใครสักคนที่เขาเป็นพ่อของลูก ไม่ใช่ว่าเกิดเหตุการณ์ปุ๊บแล้วเราเดินออกมาเลย เอาลูกออกมา ไม่ได้ง่ายอยู่แล้ว อดทนอยู่ 2 ปี ตอนแรกก็คิดว่าทำทำไม แต่ตอนนี้คิดว่าดีแล้วที่อดทนมาถึง 2 ปี เพราะทำให้รู้สึกว่า เราทนจนถึงที่สุดแล้วจริงๆ เราพยายามถึงที่สุดแล้วจริงๆ เราจะไม่มีคำถามต่างๆ ที่ติดค้าง จนวันนี้เรารู้สึกว่าโอเค เราพยายามที่สุดแล้ว มันเสียใจแหละ มันเจ็บปวด มันยาก แต่เดินออกมาแล้ว เดี๋ยวมันจะมีความสุขเอง
วันที่เราตัดสินใจเดินออกมา ทุกคนจะถามหมดว่า ไม่เป็นห่วงลูกเหรอ แล้วลูกละ ทุกคนเป็นห่วงลูกเรา ซัพพอร์ตลูกเรา แล้วใครซัพพอร์ตเราบ้าง ใครนึกถึงเราบ้าง ต่อให้เราเป็นแม่ เราดูแลลูกก็จริง แต่เราก็ต้องดูแลและซัพพอร์ตตัวเองเหมือนกัน (น้ำตาคลอ) เราจะเลี้ยงลูกได้ดีถ้าเราดูแลตัวเอง