นุ๊ก สุทธิดา เดินทางไปจีนแล้ว หวังรักษา ช็อกไปถึงหมอตรวจเจอมะเร็งโตขึ้น และกระจายเยอะ
จากกรณีที่ก่อนหน้านั้น ทาง นุ๊ก สุทธิดา ได้มาอัปเดตอาการป่วยอีกครั้ง ว่าตอนนี้เจอจุดที่ลุกลามหลายจุด และกำลังบินไปต่างประเทศเพื่อรักษา เนื่องจากสถานพยาบาลที่นั่นมีเครื่องมือพร้อมเทคโนโลยีที่ช่วยได้หลังศึกษามาแล้ว จาการรักษาตัวมะเร็งไทรอยด์ ที่เริ่มดีขึ้นและมีการไปเช็กทุก 3 - 6 เดือน พบว่ามันโตขึ้นมาเล็กๆ น้อย ๆ ตอนนี้กระจายไปบริเวณคอ ประมาณ 4 จุด ตนเองเลยไปศึกษา หาความรู้เกี่ยวกับเทคนิคการรักษาโรคมะเร็งแบบใหม่ที่ประเทศจีน จะบินไปรักษามะเร็งที่กวางโจว
นุ๊ก เผยในบางช่วงบางตอนว่า ยอมรับว่ากลัวตาย เลยต้องดูแลตัวเองให้มากขึ้น ทั้งเรื่องของการกิน และการนอนพักผ่อน ทำตัวเองให้มีความสุข เพราะโรคนี้จะแพ้ความสุข เลยพยายามไม่เครียด ส่วนสามีก็ตกใจเพราะนึกว่าเชื้อมะเร็งหายไปแล้ว ส่วนลูกทั้ง 3 คนแซวแม่ว่า แม่หนังเหนียวไม่ตายง่าย ๆ หรอก
ล่าสุดทาง นุ๊ก สุทธิดา ได้เดินทางปถึง รพ.ที่จีน และคุณหมอตรวจอีกรอบ ปรากฏว่าไม่สามารถรักษาด้วยวิธีการฝั่งแร่ได้ ต้องรักษาด้วยการผ่าตัดอย่างเดี๋ยว
การรักษาเป็นไงบ้าง?
ตอนแรกแพลนว่าจะไปแค่ฉีดแร่ตรงจุดที่เป็นมะเร็ง แต่พอไปถึงคุณหมอตรวจอัลตร้าซาวด์ และฉีดสีโดยละเอียด เหมือนว่ามันใหญ่กว่าที่คิด แล้วมีหลายก้อน ไม่ใช่ก้อนเดียว จึงไม่สามารถรักษาแบบฉีดแร่ได้ ก็เลยต้องกลับมาก่อน เขาบอกว่าถ้าจะรักษาต้องผ่าตัดเลย ก็เลยยังไม่ได้รักษา
แต่คุณหมอให้ออฟชั่นที่2 ก็คือว่า ถ้ายังไม่อยากผ่าก็จะให้เป็นเหมือนเซลล์ต้นกำเนิด ในเมืองไทยจะยังไม่ขายคำนี้ ก็คือสเต็มเซลล์ เซลล์ต้นกำเนิด จะช่วยให้เซลรอบข้างเป็นเซลล์ที่สมบูรณ์ ไม่กลายเป็นมะเร็ง ไม่ให้มะเร็งขยายตัว
ตอนที่ฉีดสีเข้าไปดูอย่างละเอียด ตัวมะเร็งก็ไม่ได้เติบโตอย่างรวดเร็ว แต่หมอบอกว่าให้อัลตร้าซาวด์ทุก 6 เดือน หรือ 3 เดือน แต่ถ้าช้อยส์สำรองก็คือการฉีดเซลล์ต้นกำเนิด เพื่อทำให้มะเร็งเจริญเติบโตช้า แล้วก็ทำให้มีร่างกายแข็งแรง เพราะคนเป็นมะเร็งภูมิจะตก จะป่วยง่าย บางทีจะผอมเร็ว อ้วนเร็ว
เราตั้งใจปรักษาแค่2-3วัน แล้วพอได้ยินคุณหมอบอกว่าขนาดมันใหญ่กว่าที่คิด ตอนนั้นเป็นไงบ้าง?
เครียดตั้งแต่ไปถึงแล้ว คือเราไปอยู่ในสถาบันมะเร็งของเขา เราไปขออนุญาตจะถ่ายด้วย ทางเขายินดี แต่เราก็เจออะไรหลายอย่าง เจอคนป่วยที่เป็นโรคเดียวกัน แรกๆ ก็ไปให้กำลังใจกัน บางคนเราเคยเจอเขาแล้วในงานสัมมนาที่เมืองไทย เหมือนตอนแรกเขาก็จะไม่มารักษา เพราะเขารักษาที่ไทยก็คิดว่าดีแล้ว
เขาเห็นว่านุ๊กเลือกจะมาที่นี่เขาก็เลยเปลี่ยนใจ อยากลองมา แต่เขามาก่อนนุ๊กนะคะ ปรากฏว่าเขามาตรวจเจอเพิ่มที่นี่ที่จีน ก็คือลาม ค่อนข้างเฟล คิดว่ารักษาดีแล้ว ข้อดีก็คือได้รักษาไปทีเดียว กลายเป็นโชคดีของเขา พอเราเจอกัน จากเขามีความมั่นใจ วันนี้เครียดขึ้น ทุกคนที่ไปเจอบอกสู้ๆ แต่ว่ามีความกลัวอยู่ในสายตา
ซึ่งมันก็ไม่ผิด เพราะทุกคนต้องมีความกลัว สไตล์ของคุณหมอที่จีนไม่เหมือนสไตล์คุณหมอไทย คุณหมอไทยจพูดอ้อมๆ ข้อมูลลึกจะไม่ค่อยให้คนไข้รู้ แต่หมอจีนจะพูดตรงๆ แต่ละเอียด ก็คนละสไตล์ ดีทั้งคู่ ดีคนละแบบ
ไปถึงก็แบบนี่ยูมีจุดดำๆ ที่ปอดด้วยนะ หมอไทยได้บอกไหม เราเป็นแนวชอบรู้อยู่แล้ว มีสิทธิ์ที่จะดีไซน์ชีวิต จึงตรวจละเอียด ไปสแกนเสร็จก็ฉีดสี แต่พอฉีดสีก็โอเคยังไม่ได้แค่เท่าที่คิด แต่ผิดหวังนิดหน่อย สรุปยังไม่ได้รักษา ข้อดีของการไปจีนมันมีช้อยส์ให้เราเลือกเยอะ
ยังไม่ได้ลามถึงปอด? ยังค่ะ พอตรวจละเอียดเป็นแค่จุดดำๆ เฉยๆ พอเป็นคุณหมอไทยจะไม่ค่อยบอกเรา เพราะเขาถือว่าไม่ได้เป็นอะไร เขาไม่อยากให้เราวิตกกังวล ถ้าหมอจีนพูดล้วงลับตับแตกเลย
ตอนนี้ตัดสินใจหรือยัง? คิดว่ายังไม่ผ่า ยังมีงาน เมื่อก่อนรู้สึกก็อยู่ไปแบบนี้ แต่ตอนนี้มีความหวัง มีลูกเล็ก ลูกดันน่ารัก ติดเรา อยากรักษาให้หายๆ ไป แต่ยังไม่พร้อมตอนนี้ เรามีหลายอย่างที่ต้องทำ อาจไปอีกทางเลือกนึง ฉีดเซลล์ต้นกำเนิดก่อน เพื่อจะได้มีภูมิคุ้มกันที่แข็งแรง เวลาสัมภาษณ์ ถ่ายละคร หน้าจะซูบไปเลย เราป่วยแล้วร่างกายเราไม่เหมือนเดิมเลย พอเป็นมะเร็งที่คอช่วงบนหัวเราจะชัดมากถ้าไม่สบาย จมูกก็จะได้กลิ่นประหลาด ระบบสมองมันสรวน
เห็นว่าได้เป็นฑูตที่จีนเกี่ยวกับมะเร็ง? ตอนกลับมาสามีก็ถามเป็นยังไงบ้าง ปกติจะต่างคนต่างอยู่ เป็นครั้งแรกที่เราตอบว่าเดี๋ยวได้ไหม อย่าเพิ่งคุย ยังไม่อยากจะพูดเรื่องนี้ เราอยู่กับมะเร็งมาเต็มๆ 3 วันครึ่ง รู้สึกเมามะเร็งมากเลย อยู่กับคนป่วยด้วย
พอกลับมาได้เจอผู้คนก็เริ่มดีขึ้น ตอนที่ไปถ่ายก็ได้แรงบันดาลใจการที่คนป่วยด้วยกันมาให้กำลังใจกัน มันก็เป็นเรื่องที่ดี นุ๊กก็เชื่อว่าคนที่นุ๊กไปเยี่ยมหรือไปให้กำลังใจ เขาก็รู้สึกว่าไม่โดดเดียว แน่นอนเขามีญาติคอยดูแล แต่ญาติหรือหมอที่รักษาก็ไม่ได้ป่วยไปกับเขา วันนึงมีคนที่ป่วยเหมือนกัน จับมือกัน สู้ไปด้วยกัน มันก็เป็นเรงบันนดาลใจในการทกิจกรรมตรงนี้ โรงพยาบาลก็บอกว่างั้นช่วยโปรโมต ช่วยทำกิจกรรมตรงนี้หน่อย ซึ่งเราก็ยินดี ไปเจอคนที่ป่วย ไม่ใช่แค่เราให้กำลังใจเขา เขาก็ให้กำลังใจเราเหมือนกัน
เป็นฑูตต่อต้านมะเร็ง? นั่นแหละค่ะ ให้กำลังใจ เป็นการต่อต้านให้ความสุขเข้ามาบำบัด ให้กำลังใจซึ่งกันและกัน ยืนเป็นเพื่อนกัน เป็นของโรงพยาบาลที่จีน ชื่อโรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่แสตมฟอร์ดกว่างโจว ไม่ได้ขายโรงพยาบาลจริงจัง แต่ทุกครั้งที่มีสัมมนา เราจะไปพบกับผู้ป่วย เพราะเราก็เป็นคนที่ยังไม่ได้รักษาอะไรที่นั่น เอาความสุขไปต่อต้านมะเร็ง
พอเป็นฑูตต้องไปรักษากับเขาไหม? นุ๊ก ยังไม่รู้จะรักษาเรื่องผ่าตรงไหน แต่คิดว่าจะไปฉีดเซลล์ต้นกำเนิด เพราะว่าในไทยมันไม่มีให้ฉีด เรารู้ว่าตัวเราสรวน ภูมิตกง่ายมาก นอนไม่พอแค่วันเดียว เช้าตื่นมาจะตาบวม หน้าบวม เลยต้องฉีดแน่นอน พอเทียบราคาที่จีนเขาไม่ได้แพงมาก ด้วยประชากรเขาเยอะ การลงทุนการแพทย์ก็ถือว่าคุ้ม
เร็วๆ นี้เลยไหม? นุ๊กเป็นคนใจร้อน กลับมารอบนี้เฟลนิดนึง อยากจะรักษาแต่ไม่ได้รักษา น่าจะเร็วๆ นี้ ขอเคลียร์งานก่อน ตอนนี้ถ่ายละคร 2 เรื่อง ทั้ง 2 กองก็อยากจะปิดสิ้นปีนี้ แต่เราก็อยากจะไปรักษาเหมือนกัน เราต้องดูแลตัวเองให้ดีที่สุด เพื่ออยู่กับลูกให้นานที่สุด อย่างน้อยก็ต้องส่งให้เขาเรียนจบก่อน”
หลังจากฉีดเซลล์กำเนิดต้องผ่าตัดไหม? จะเป็นการชะลอค่ะ มันฉีดได้ทุกคน หรือคนที่เป็นมะเร็งระยะสุดท้าย หรือ อายุเยอะแล้ว หมอไม่อยากให้เคมีแล้ว ก็สามารถฉีดได้ ช่วยให้เขามีอายุต่ออีกนิดนึง