เปิดให้ ครอบครัว-ทนาย เยี่ยม 3 บอสชายแล้ว ด้านแม่บอสพอลเลี่ยงหนีสื่อ

เปิดให้ ครอบครัว-ทนาย เยี่ยม 3 บอสชายแล้ว ด้านแม่บอสพอลเลี่ยงหนีสื่อ

วันนี้ (24 ต.ค. 67) เมื่อเวลา 10.30 น. ที่บริเวณด้านหน้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ถนนงามวงศ์วาน แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพฯ นายวิฑูรย์ เก่งงาน ทนายความของ บอสพอล เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเช้าที่ตนได้เดินทางมาที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ตนได้นำเอกสารที่จะแจ้งความกรณีที่มีพนักงานของบริษัท ดิไอคอนกรุ๊ปฯ ถูกตำรวจเชิญมาให้ปากคำและยึดโทรศัพท์มือถือ รวมถึงกรณีนักร้องเรียนหญิงที่มีพฤติกรรมเรียกรับเงินมาให้ บอสพอล เซ็นชื่อ (แต่ทนายไม่ได้บอกว่าเมื่อบอสพอลเซ็นแล้วจะเอาเอกสารไปใช้วัตถุประสงค์ใด) และตนได้ออกจากเรือนจำฯ มาแล้ว ขณะนี้ตนอยู่ที่ศาลอาญารัชดาฯ เพื่อติดตามคดีอื่น ทั้งนี้ในกรณีของการจะเดินทางไปแจ้งความที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางในช่วงเที่ยงหรือไม่นั้น อาจจะไม่ทัน อาจจะไปช่วงเย็นแทน

เมื่อถามว่าทราบหรือไม่ว่ามีทนายความหรือญาติของบรรดาบอสชายรายอื่นมาเยี่ยม ทนายวิฑูรย์ กล่าวว่า ตนได้รับการประสานว่าทางเลขานุการและน้องสาวของบอสพอล จะเข้ามาเยี่ยมในรอบเวลา 10.10 น. ส่วนบอสชายคนอื่นตนไม่ทราบ แต่อาจจะมีทนายความของแต่ละคนเข้ามา

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า เมื่อเวลา 10.50 น. ปรากฏมีผู้หญิงสูงวัย 1 ราย ผมสั้น สวมเสื้อสีเขียวลายดอกไม้และกางเกงสีดำ ถือกระเป๋าสาน ได้เดินออกมาบริเวณด้านหน้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ พร้อมกับผู้หญิงสูงวัย สวมเสื้อสีส้ม ซึ่งผู้สื่อข่าวจดจำใบหน้าละม้ายคล้ายนางจินดา แซ่ก๊อก แม่ของ บอสพอล จึงรีบรุดเข้าไปสวัสดีสอบถามว่า ใช่คุณแม่บอสพอลหรือไม่ ปรากฏว่ามีการยกมือปฏิเสธไม่ให้สัมภาษณ์ และบอกว่าตนเองไม่ใช่แม่บอสพอล ก่อนรีบเดินขึ้นรถยนต์ส่วนบุคคล ขณะที่เมื่อตอนมาถึงด้านหน้าเรือนจำฯ ช่วงเช้าเวลา 10.00 น. กลับเดินทางมาด้วยรถตู้เอนกประสงค์ ซึ่งขามาและขากลับใช้รถคันละคัน ทั้งนี้มีรายงานว่าในตอนเข้าเยี่ยมทางแม่บอสพอลไม่ได้เข้าไปเยี่ยมด้วย แต่รออยู่ด้านนอกแทน เนื่องจากไม่ได้ส่งรายชื่อเข้าไปก่อน และภายหลังการเข้าเยี่ยม ครอบครัวมีการยืนพูดคุยกัน บางคนที่เข้าถึงกับน้ำตาคลอออกมา ขณะที่เเม่บอสพอลก็ยืนพูดคุยกันกับท่านอื่น ๆ เกี่ยวกับคดีของลูกชาย

สำหรับบรรยากาศบริเวณห้องเยี่ยมญาติ พบว่า ห้องเยี่ยมญาติมีทั้งหมด 7 ห้อง โดย 1 ห้องมี 4 เก้าอี้ และนั่งห่างกันหนึ่งช่วงแขน ซึ่งการพูดคุยของญาติและผู้ต้องขังจะมีซี่กรงกั้นกลางไว้ และใช้โทรศัพท์คล้ายโทรศัพท์บ้านในอดีตในการสื่อสารระหว่างกัน และต้องสวมใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลา นอกจากนี้การจะเข้าเยี่ยมญาติ ณ เรือนจำฯ ทุกคนจะต้องลงทะเบียนเยี่ยมบริเวณจุดคัดกรองที่ด้านหน้าเรือนจำฯ เพื่อตรวจสอบและลงทะเบียนขอเยี่ยมผู้ต้องขัง และเพื่อตรวจเอกสารต่าง ๆ ก่อน และต้องเป็นบุคคลที่อยู่ใน 10 รายชื่อที่ผู้ต้องขังแจ้งไว้ เมื่อตรวจเอกสารเสร็จสิ้น จะได้รับใบคิวที่จะระบุรอบเวลาการตีเยี่ยมและเลขเครื่องที่จะใช้ในการเยี่ยม โดยการเยี่ยมญาติกำหนดเวลาเพียง 20 นาทีต่อคน

ขณะที่ห้องขวาสุดถัดจากห้องเยี่ยมญาติผู้ต้องขังจะเป็นห้องงานเยี่ยมญาติผ่านแอพพลิเคชันไลน์ (LINE) ส่วนตรงข้ามกับห้องเยี่ยมญาติ ณ เรือนจำฯ จะเป็นร้านสงเคราะห์ผู้ต้องขัง ซึ่งมีการจัดจำหน่ายทั้งของกินของใช้ ถัดเข้าไปด้านในคือห้องรับฝากเงินผู้ต้องขัง และตรงข้ามห้องรับฝากเงินผู้ต้องขังคือห้องทนายความและล่าม มีจำนวน 3 ห้อง ทั้งนี้ก่อนเข้าเยี่ยมญาติในห้องทุกคนจะต้องเก็บเครื่องมือสื่อสารไว้ในล็อกเกอร์

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ