เปิดตำนาน วัดเขาอ้อ แก้ของสุดยอดวิชาไสยเวทย์ วัดดังที่ช่วยคุณปอย ในเรื่องทำไมดูเป็นคนดีจัง
จากกระแสเรื่องเล่าสุดหลอนของ ปอย สาวนักเขียน ที่ออกมาเล่าเรื่อง ทำไมดูเป็นคนดีจัง ในรายการ The Ghost Radio กำลังถูกพูดถึงกันอย่างกว้างขวาง เป็นเรื่องราวที่เธอบอกว่า ได้รู้จักกับหมอดูชื่อดัง และรับสิ่งของสายมูเตลู ก่อนที่ชีวิตของเธอจะเปลี่ยนไปโดยไม่รู้ตัว โดยเธอบอกว่าเป็นเรื่องราวของการถูกหมอดูขโมยดวง อย่างไรก็ตามในเรื่องราวนี้ เธอได้พูดถึงการเดินทางไปที่ วัดเขาอ้อ เพื่อแก้ของไม่ดีออกจากตัวด้วยนั่นเอง
โดย วัดเขาอ้อ ตั้งอยู่ที่ ต.มะกอกเหนือ อ.ควนขนุน จ.พัทลุง สร้างเมื่อ พ.ศ. 1651 เคยเป็นสำนักพราหมณ์ผู้เรืองเวทย์มาก่อน ซึ่งเป็นสำนักทิศาปาโมกข์ ตามตำนานบอกว่า ความรู้ในสำนักตักสิลาเขาอ้อ แบ่งเป็น 2 เรื่อง คือ วิชาธรรมศาสตร์อันเกี่ยวข้องด้วยการปกครอง การสร้างบ้านแปลงเมือง การทำมาหากิน และอีกสายคือวิชาเกี่ยวข้องกับพิธีกรรม ไสยศาสตร์การแพทย์
วัดเขาอ้อ เป็นแหล่งวิทยาคมทางไสยศาสตร์ มีชื่อเสียงโด่งดังมาตั้งแต่สมัยโบราณ พระเกจิอาจารย์หลายรูปที่เกี่ยวข้องกับวัดเขาอ้อ เช่น พระอาจารย์ทองเฒ่าพระครูสิทธิยาภิรัต (เอียด) , พระอาจารย์นำแก้วจันทร์ , พระอาจารย์ศรีเงินวัดดอนศาลาพระครูพิพัฒน์สิริธร (อาจารย์คง) วัดบ้านสวน , พระอาจารย์ปานวัดเขาอ้อ ส่วนฆราวาสที่เป็นลูกศิษย์วัดเขาอ้อที่คนทั่วไปรู้จัก คือ พล.ต.ต.ขุนพันธรักษ์ราชเดช
ตำนานสำนักเขาอ้อ เล่ากันว่า แต่เดิมเป็นที่บำเพ็ญพรตของพราหมณ์หลายรุ่น เนื่องจากในอดีตเมืองที่เจริญละแวกนั้น ได้แก่ สทิงปุระ หรือ สะทิงพาราณสี ซึ่งก็คืออำเภอสทิงพระ ซึ่งตามประวัติอำเภอนี้เกี่ยวข้องกับพราหมณ์อยู่มาก
สมัยศรีวิชัยที่ศาสนาพุทธแผ่อิทธิพลทั่วแหลมมลายู บริเวณดังกล่าวในเขตเมืองพัทลุงในปัจจุบัน ยังเป็นฐานที่มั่นสุดท้ายของพราหมณ์ หลักฐานทางประวัติศาสตร์บอกว่า เป็นเมืองที่ชุมชนหนาแน่นที่สุด ในขณะนั้นมี พราหมณ์ผู้ทรงวิทยาคุณ (ฤาษี) คณะหนึ่ง บำเพ็ญพรตอยู่ที่ถ้ำบนเขาอ้อ จนเกิดอิทธิฤทธิ์ต่าง ๆ ตามตำราอาถรรพเวท (พระเวทอันดับสี่ของคัมภีร์พราหมณ์) แล้วได้ถ่ายทอดวิชานั้นต่อๆ กันมาพร้อมกันนั้น และยังจัดตั้งสำนักถ่ายทอดวิชาความรู้แก่ผู้สนใจ
ทั้งนี้มีการถ่ายทอดวิชาต่างๆ ให้พราหมณาจารย์สืบทอดต่อ ๆ กันมา นอกจากวิชาในเรื่องการปกครองตามตำราธรรมศาตร์แล้ว ยังมีเรื่องพิธีกรรม ฤกษ์ยามการจัดทัพตามตำราพิชัยสงคราม ตลอดจนไปถึงไสยเวท และการแพทย์ตามตำนานบอกวิชา 2 สาย สืบทอดโดยพราหมณาจารย์ผู้เฒ่า 2 คน ซึ่งสืบทอดกันคนละสาย สำนักเขาอ้อในสมัยนั้น เป็นสำนักทิศาปาโมกข์ จึงมีพราหมณ์อยู่ 2 ท่านเสมอ
สถานที่แห่งนั้นเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ พราหมณ์ผู้บรรลุพระเวทหลายคนได้ฝังร่างไว้ที่นั้น สถานที่นั้นจึงสำคัญ พราหมณ์ผู้เฒ่าจึงได้เล็งหาผู้ที่จะมาสืบทอดและรักษา
ประกอบกับขณะนั้นอิทธิพลทางพุทธศาสนา แผ่เข้ารายล้อมเขตเมืองพัทลุงแล้วบริเวณข้าง ๆ เขาอ้อมีวัดอยู่หลายวัด วัดที่ใกล้ที่สุดคือ วัดน้ำเลี้ยว มหาพราหมณ์ ทั้ง 2 ท่านเล็งเห็นว่าต่อไปภายภาคหน้าพุทธศาสนาจะยั่งยืน และ แผ่อิทธิพลในดินแดนแถบนั้น การที่จะฝากอะไรไว้กับผู้ที่ยั่งยืน และ มีอิทธิพลน่าจะเป็นการดี จึงตัดสินใจไปนิมนต์พระภิกษุรูปหนึ่งมาจากวัดน้ำเลี้ยว ให้มาอยู่ในถ้ำแทน แล้วมอบคำภีร์ศักดิ์สิทธิ์ของบูรพาจารย์พราหมณ์ให้พร้อมทั้งถ่ายทอดวิชาทางไสยเวทให้ รวมทั้งวิชาทางแพทย์แผนโบราณ
ข้อมูล : องค์การบริหารส่วนจังหวัดพัทลุง