จากเว็บไซต์ข่าวต่างประเทศ CafeF ได้รายงานว่า ชายอายุ 60 กว่าปี ที่อาศัยอยู่ในมณฑลเจ้อเจียง ประเทศจีน ชอบกินขนมไหว้พระจันทร์ โดยเฉพาะขนมเค้กรวมแบบดั้งเดิม อย่างไรก็ตาม ขนมชนิดนี้มีขายเฉพาะช่วงเทศกาลไหว้พระจันทร์เท่านั้น และมีอายุการเก็บรักษาสั้นมากๆ ทำให้เขามักจะรู้สึกเสียดายเสมอ

เมื่อไม่กี่วันก่อน ญาติห่างๆ คนหนึ่งเดินทางไปทำธุรกิจในสถานที่ที่มีชื่อเสียงด้านขนมไหว้พระจันทร์ทำมือ และซื้อขนมติดมือกลับมามอบให้เขาเป็นของขวัญจำนวน 2 กล่อง โดยไม่ต้องรอให้ถึงเทศกาลไหว้พระจันทร์ เย็นวันนั้นหลังจากรับประทานอาหารเสร็จ เขาก็ขนมไหว้พระจันทร์ไป 4 ชิ้นในคราวเดียว ช่วงกลางดึกเขาเริ่มมีอาการปวดท้องอย่างรุนแรง ร่างกายไม่มีเรี่ยวแรง และอาเจียนอย่างต่อเนื่อง เมื่อสมาชิกในครอบครัวรู้ก็รีบพาไปที่แผนกฉุกเฉินของโรงพยาบาล

ดร.เฉิน ฮั่นกวง แพทย์ที่ทำการรักษา กล่าวว่า "ผลการสแกน CT พบว่าผู้ป่วยมีตับอ่อนอักเสบเฉียบพลัน โดยมีสารคัดหลั่งจากตับอ่อนและนิ่วในถุงน้ำดี ซึ่งอาการเป็นอันตรายมาก ส่งผลให้ปริมาณเลือดลดลง และเสี่ยงต่อการตายของเนื้อเยื่อตับอ่อน ผู้ป่วยได้รับการผ่าตัดทันทีจึงรอดพ้นจากวิกฤต หลังจากพักรักษาตัวอยู่ในห้อง ICU เป็นเวลา 2 วัน แล้วจึงย้ายไปห้องพักในโรงพยาบาลปกติ"

สิ่งแรกที่เขาถามหมอคือ ทำไมจู่ๆ เขาก็เป็นโรคตับอ่อนอักเสบเฉียบพลัน โดยไม่ได้คาดหวังว่าคำตอบคือ "ขนมไหว้พระจันทร์" เพียง 4 ชิ้น ซึ่งทำให้ตนเองตกอยู่ในอันตรายถึงชีวิตได้

คุณหมอเฉิน อธิบายว่า คนไข้มีประวัติเป็นโรคนิ่วและถุงน้ำดีอักเสบ และมีปัญหาเรื่องไขมันในเลือดสูงด้วย ในขณะเดียวกันขนมไหว้พระจันทร์มีแคลอรี่สูง มีน้ำตาลและไขมันอิ่มตัวสูง แต่มีเส้นใยต่ำ การรับประทานขนมไหว้พระจันทร์หลายๆ ชิ้นในคราวเดียว สามารถกระตุ้นให้ตับอ่อนหลั่งของเหลวมากเกินไปได้ง่าย ทำให้เกิดอาการบวมน้ำที่ตับอ่อน และทำให้เกิดตับอ่อนอักเสบเฉียบพลันได้ในที่สุด

ไม่ต้องพูดถึงว่าการกินขนมไหว้พระจันทร์ในปริมาณมาก ยังช่วยเพิ่มไขมันในเลือดและน้ำตาลในเลือดได้อีกด้วย หากปล่อยโรคเหล่านี้ไว้โดยไม่ได้รับการรักษาเป็นเวลานาน อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคตับอ่อนอักเสบเฉียบพลันได้เช่นกัน สำหรับคนเป็นโรคตับอ่อนและความผิดปกติของระบบเผาผลาญอย่างคนไข้รายนี้ การกินขนมไหว้พระจันทร์เยอะๆ ในคราวเดียวเช่นนี้ ยิ่งเป็นอันตรายมากขึ้นไปอีก