สลด หญิงวัย 33 ปี ขี่ จยย.ล้ม ถูก รถเมล์เหยียบ เสียชีวิต
24 ส.ค. 2567 ร้อยตำรวจโท ยงยุทธ อ่างอินทร์ รอง สว.สอบสวน สน.บุบผาราม รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถเมล์ ทับรถจักรยานยนต์ บริเวณปากซอยประชาธิปก 10 และภายในที่เกิดเหตุมีผู้เสียชีวิตเป็นหญิง 1 ราย จึงรีบรุดจัดกำลังพร้อมประสาน แพทย์นิติเวชโรงพยาบาลศิริราช และ อาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง เร่งรัดตรวจสอบที่เกิดเหตุทันที
เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมอาสาสมัครมาถึงที่เกิดเหตุพบจุดเกิดเหตุอยู่ตรงบริเวณ ปากซอยประชาธิปกซอย 10 ถนน ประชาธิปก แขวง หิรัญรูจี เขต ธนบุรี กรุงเทพมหานคร ที่เกิดเหตุเป็นลักษณะถนน 4 เลน ทิศทางมุ่งหน้าขึ้นสะพานพระปกเกล้าฯ
จากการตรวจสอบบริเวณเลนซ้ายสุดพบรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ฮอนด้า เวฟ 110 i สีแดงคาดดำ ทะเบียนกรุงเทพมหานคร ในลักษณะล้มตะแคงพลิกคว่ำอยู่กับพื้นถนน และข้างรถจักรยานยนต์คันดังกล่าวพบร่างผู้เสียชีวิตเป็นหญิง 1 ราย ซึ่งทราบชื่อต่อมาชื่อ นางสาวสิริพร (สงวนนามสกุล) อายุ 33 ปี
ถัดมาไม่ห่างกันพบรถประจำทาง สาย 37 วิ่งระหว่างท่าเรือพระประแดง ถึง จุฬาฯ สีแดงครีม ยี่ห้อ ฮีโน่ ทะเบียน 12-0790 กรุงเทพมหานคร จอดนิ่งอยู่ภายในที่เกิดเหตุ พบพนักงานขับรถประจำทางคันดังกล่าวยืนรอให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจโดยไม่ได้หลบหนีไปไหน ซึ่งทราบชื่อพนักงานขับรถประจำทางต่อมาชื่อ นางสาวศศกร (สงวนนามสกุล) อายุ 55 ปี
จากการสอบถาม นาย วินัย (สงวนนามสกุล) อายุ 58 ปี ขับมอไซค์วินเบอร์ 9 บอกเล่าว่า ตนมองหาลูกค้าไปอีกฝั่งนึงอยู่ แล้วมีคนมาบอกว่า มีรถล้มมีคนเจ็บนอนอยู่ตรงนั้น ตนจึงวิ่งมาดู เห็นรถมอไซค์ทับเค้าอยู่ ตนจึงยกรถขึ้นไปชิดขอบทางเท้า แต่ตอนนั้นคนเจ็บยังหายใจรวยรินอยู่นะ ตนจึงบอกว่า ให้ช่วยแจ้ง 191 ให้หน่อย ตนก็ไม่เห็นเหตุการณ์ตอนชน ตนมาเห็นต้นเค้าล้มนอนคว่ำหน้าไปแล้ว แต่ข้างหลังมีรอยล้อรถทับไปอยู่ มีคนบนรถเมล์บอกไม่ได้ชนนะ แต่เหมือนรถกระโดดเป็นคลื่นไป ช่วงตอนนั้น ฝนตกปอยๆ
และที่พื้นถนนมีคราบน้ำมัน เค้าอาจจะลื่นคราบน้ำมันก่อนแล้วเสียหลักไปชนฟุตบาท ตัวกระเด็นออกมา แล้วรถเมล์มาพอดีหรือป่าว เค้าไม่ได้ใส่หมวกกันน๊อคด้วย ส่วนทางด้าน นางสาวศศกร พนักงานขับรถประจำทางกล่าวว่า ตนเองมาจากพระประแดง-จุฬาลงกรณ์ตอนมาถึงที่เกิดเหตุมีคนตะโกนในรถว่าเหยียบโดนคน แล้วก็เลยลงไปจากรถเมล์ ก็พบผู้หญิงนอนคว่ำหน้า แต่ว่าตอนตัวเองขับเหยียบนั้นไม่มีความรู้สึกว่ารถ มีการสั่นสะเทือนเลย ขับมาปกติตามทาง เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ และแพทย์นิติเวช ได้มอบหมายให้อาสาสมัครนำร่างผู้เสียชีวิตไปตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้งที่นิติเวชโรงพยาบาลศิริราช และได้เชิญตัวพนักงานขับรถประจำทางไปสอบถามเพิ่มเติมถึงสาเหตุของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างละเอียดอีกครั้งที่ สน.บุบผาราม ก่อนที่จะดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป