แพทย์จีนอายุ 104 ปี บอกเคล็ดลับอายุยืน กินแค่ 2 เมนูนี้ทุกวัน หาได้ง่ายมาก
จากสื่อต่างประเทศได้รายงานว่า Lu Zhizheng นายแพทย์อายุ 104 ปี (เกิด พ.ศ.2463) เป็นที่รู้จักในฐานะปรมาจารย์ด้านการแพทย์แผนจีน ครั้งหนึ่งเขาเคยแบ่งปันอาหาร 2 ชนิด และเคล็ดลับ 5 ข้อ ที่ช่วยให้ตนเองมีสุขภาพที่ดีและอายุยืนยาว ช่วยให้ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ทั้งการวินิจฉัยและรักษาผู้ป่วยจำนวนมาก จนถึงอายุกว่า 80 ปีเลยทีเดียว
เคล็ดลับอาหาร 2 ชนิด มีดังนี้
1.ชอบกินขิง
คุณหมอเคยเล่าว่า เขามักจะหั่นขิงแล้วนำไปแช่หมักในน้ำส้มสายชู จากนั้นนำมาทานทุกเช้าวันละ 2-3 ชิ้น โดยยึดนิสัยการทานเช่นนี้มานานกว่า 40 ปีแล้ว
การวิจัยและผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ทั่วโลกยืนยันว่า ขิงเป็นอาหารเพื่อสุขภาพ สารจินเจอรอล (Gingerol) ซึ่งเป็นสารประกอบในขิง มีฤทธิ์ต้านการอักเสบและต้านอนุมูลอิสระอย่างมาก จึงช่วยป้องกันโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ผลการศึกษาเกี่ยวกับขิงยังพบด้วยว่า การรับประทานขิง 1-3 กรัมทุกวันเป็นเวลา 12 สัปดาห์ จะช่วยลดระดับโปรตีน C-reactive (CRP) ในร่างกาย ซึ่งเป็นสัญญาณของโรคหัวใจและหลอดเลือด และสามารถช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันโดยการลดการอักเสบเรื้อรัง ลดความดันโลหิต ลดคอเลสเตอรอล และป้องกันการเกิดลิ่มเลือด ปรับปรุงการไหลเวียนโลหิต
นอกจากนี้ การเพิ่มขิงลงในมื้ออาหารยังช่วยปรับปรุงการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดของผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 และโรคอ้วน โดยการลดระดับอินซูลินขณะอดอาหาร ลดHemoglobin A1c (ฮีโมโกลบินเอวันซี) และลดไตรกลีเซอไรด์
การศึกษาอีกชิ้นหนึ่งแสดงให้เห็นว่า ขิงสามารถช่วยควบคุมน้ำหนักตัวได้ โดยการเพิ่มการสร้างความร้อนของร่างกายเพื่อช่วยเผาผลาญไขมัน ช่วยเพิ่มการสลายไขมัน ยับยั้งการสะสมไขมัน ยับยั้งการดูดซึมไขมัน และช่วยควบคุมความอยากอาหาร
2.ชอบดื่มชา
คุณหมอเคยเล่าว่ามีนิสัยการดื่มชาวันละ 3 แก้ว โดยมักจะดื่มชาเขียวในตอนเช้า ชาอูหลงในช่วงบ่าย และชาผู่เอ๋อในตอนเย็น อย่างไรก็ตาม ไม่ควรชงชาให้เข้มข้นเกินไป เนื่องจากชาเข้มข้นมีกรดแทนนิกจำนวนมาก และไม่เหมาะสำหรับผู้สูงอายุ
ชาประกอบด้วยโพลีฟีนอล คาเฟอีน ธีอะนีน และสารที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพอื่นๆ สารประกอบธรรมชาตินี้มีประโยชน์ต่อสุขภาพ เช่น ลดการอักเสบ และช่วยต่อสู้กับมะเร็ง โดยเฉพาะชาเขียวที่มีสารคาเทชิน ที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระตามธรรมชาติ ช่วยป้องกันความเสียหายของเซลล์ที่เกิดจากอนุมูลอิสระในร่างกาย จึงสามารถป้องกันโรคเรื้อรัง และยืดอายุได้อย่างมีประสิทธิภาพ