หมอช็อค! หลังพบเคสเด็กอายุ 19 ปี ป่วยเส้นเลือดในสมองตีบ เตือนหลายคนทำบ่อย
จากสื่อต่างประเทศ ได้รายงานว่า แม้ว่าจะมีอายุที่น้อย แต่ก็อาจเสี่ยงป่วยเป็นเส้นเลือดในสมองตีบได้ โดย หู ซินผิง รองหัวหน้าแผนกประสาทวิทยาของโรงพยาบาลจงซาน มณฑลเจ้อเจียง ประเทศจีน เปิดเผยถึงเคสผู้ป่วยชาย อายุ 19 ปี ซึ่งเข้ารับอาการป่วยเนื่องจากเส้นเลือดในสมอง โดยเขาเป็นผู้ป่วยโรคนี้ที่มีอายุน้อยที่สุดในโรงพยาบาล
ก่อนที่ นายซู จะเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล นายซู ตื่นขึ้นมาเพื่อไปเรียนตามปกติ แต่เรื่องกายของเขาก็เกิดความไม่ปกติขึ้น โดยมีอาการขยับแขนขาได้ยากมาก ด้านขวาของร่างกายชากว่าเดิม และรู้สึกไม่ดี ในตอนแรกเขาคิดว่าตัวเองมีอาการดังกล่าวเเนื่องจากเหนื่อยจากการไม่พอ เขาจึงลาเรียน
ต่อมา นายซู เกิดอาการปวดหัวอย่างฉับพลันทำให้เขานอนไม่หลับ เมื่อเขาพยายามลุกจากเตียงเพื่อจะไปกินยาแก้ปวด เขาพบว่าปากของเขาเบี้ยวไปข้างหนึ่ง พูดแทบไม่ได้ และแก้มขวาแข็งเกร็ง นายซูตกใจและส่งข้อความให้เพื่อนเรียกรถพยาบาล หลังจากทำการสแกนสมองด้วย CT เขาถูกวินิจฉัยว่าเป็นโรคหลอดเลือดสมองตีบ หรือ สโตรก
ผู้ป่วยมีน้ำหนักเกิน (หนักประมาณ 100 กิโลกรัม และสูง 170 เซนติเมตร) มีภาวะหลอดเลือดสมองตีบ ซึ่งเป็นอาการของโรคหลอดเลือดสมองชนิดหนึ่งที่เกิดขึ้นเมื่อหลอดเลือดในสมองตีบหรือถูกอุดตัน ส่งผลให้เนื้อเยื่อในบริเวณนั้นตายและสมองสูญเสียการทำงาน รวมถึงก่อให้เกิดอาการทางระบบประสาท ขึ้นอยู่กับตำแหน่งของสมองที่ลูกทำลายไปโดนส่วนที่ใช้ในการควบคุมอวัยวะส่วนไหนของร่างกาย อวัยวะนั้นก็จะสูญเสียการทำงานไป
โชคดีที่ผู้ป่วยมาถึงโรงพยาบาลในช่วงเวลาทอง คือเวลาที่ยังมีโอกาสรักษาแก้ไขอาการได้ เขาอายุยังน้อยและอาการไม่รุนแรงเกินไป จึงไม่จำเป็นต้องผ่าตัด หลังจากการรักษาด้วยยาต้านการจับตัวของเกล็ดเลือด ผู้ป่วยก็พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ตาม เขายังต้องอยู่ในโรงพยาบาลอีก 10 วัน และต้องผ่านการฟื้นฟูสมรรถภาพเป็นเวลานานก่อนที่จะสามารถเดินได้ตามปกติ
นอกจากนี้ เรายังพบว่าผู้ป่วยมีไขมันในเลือดสูง ภาวะก่อนเบาหวาน และไขมันพอกตับ ซึ่งจำเป็นต้องได้รับการรักษาเพิ่มเติม ในขณะเดียวกัน การปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตก็มีความสำคัญอย่างมาก เพราะโรคต่างๆ รวมถึงโรคหลอดเลือดสมองก็มาจากพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่ไม่ดีต่อสุขภาพ เมื่อทราบเรื่องนี้ ผมอดไม่ได้ที่จะพูดเสียงดังด้วยความโกรธ เพราะผู้ป่วยยังอายุน้อยแต่มีพฤติกรรมที่เป็นอันตรายอย่างมากถึง 5 อย่าง ซึ่งแม้แต่คนที่มีร่างกายแข็งแรงดุจเหล็กก็ไม่อาจทนได้” ดร. หู ซินผิง กล่าว
พฤติกรรมที่ไม่ดีทั้ง 5 ของซูคือ
1.การนอนดึกเป็นเวลานาน
2.กินอาหารมื้อดึกเป็นประจำ
3.ดื่มแอลกอฮอล์
4.สูบบุหรี่
5.กินอาหารฟาสต์ฟู้ดที่มีไขมันสูงเป็นประจำ
เขากล่าวว่าตั้งแต่เรียนชั้นมัธยมปลาย เขาก็มีนิสัยเล่นเกมออนไลน์จนดึกดื่น และเมื่ออยู่ไกลบ้านโดยไม่มีพ่อแม่คอยดูแล เขามักจะอดนอนทั้งคืนแล้วนอนในช่วงกลางวัน
เนื่องจากเขานอนดึกแต่นอนในช่วงกลางวัน เขาจึงเริ่มกินอาหารไม่ตรงเวลา ชอบกินมื้อดึก และหลงใหลอาหารจานด่วนอย่างไก่ทอด มันฝรั่งทอด ฯลฯ อย่างมาก เขายังชอบกินมันเป็นของว่างพร้อมกับเบียร์และไวน์อีกด้วย เขาเริ่มสูบบุหรี่เพราะความอยากรู้ และจากนั้นก็รู้สึกว่าบุหรี่ช่วยให้เขาง่วงน้อยลงและมีสมาธิในการเล่นเกมตอนกลางคืนมากขึ้น แบบนี้เขาจึงทำลายสุขภาพของตัวเองไปเรื่อยๆ โดยไม่รู้ตัว