แม่นกน้อย อุไรพร เปิดตัวเลขค่าเสียหาย หลัง ไฟไหม้โกดังเสียงอิสาน!
อีกหนึ่งนักร้องลูกทุ่งหมอลำรุ่นใหญ่อย่าง แม่นกน้อย อุไรพร ที่ล่าสุดได้ออกมาเปิดใจปลุกชีวิตวงหมอลำในตำนานเสียงอิสานที่มีมายาวนานกว่า 50 ปี พลิกโฉมใหม่ทุ่มเงินกว่า 50 ล้านบาท คว้า ฝน ธนสุนทร ร่วมวงหลังจากไม่ได้ร่วมงานกันมานานเกือบ 10 ปี พร้อมย้อนเล่าคำพูดก่อนเสียชีวิตของพ่อหลอด ในรายการคุยแซ่บShow ทางช่องOne31
เสียงอิสานเจออุปสรรคเยอะมาก การสูญเสียพ่อหลอด โควิด ไฟไหม้ แม่เอาแรงจากไหนมาฮึดสู้กับเรื่องพวกนี้
แม่นกน้อย : สิ่งที่เกิดขึ้นและเป็นการพิสูจน์นั่นก็คือครอบครัวเสียงอิสานซึ่งไม่ไปไหน ทุกคนรอความหวังว่าผู้หญิงคนนี้คือผู้หญิงเก่ง แม่ต้องสู้นะ ห้ามท้อนะ เป็นความหวังของครอบครัว
เคยมีท้อมากๆมั้ย
แม่นกน้อย : ท้อ มีช่วงนึงที่พ่อหลอดอาการหนัก แล้วลูกๆในครอบครัวไม่รู้ว่าพ่อแม่จะทำอะไร โควิดด้วย สองคนแม่กับพ่อคุยกันว่า ผมขอให้คุณยุบวงตั้งแต่เสียงอิสานยุคทองที่เราสองคนมีมากมายจนจำไม่ได้แล้วว่ามีอะไร แต่คุณดื้อดึงเอง คุณจะยังทำวงต่อ ตอนนี้มีช้อยส์ให้เลือกคือ ขายบานตองห้าและยุบวง แม่จะเลือกอะไร แม่ก็บอกว่าแม่เลือกขายบ้านตองห้าเพราะมันเป้นสมบัติของพ่อหลอด ถ้าเหลือส่วนต่างที่รักษาท่าน ส่วนที่เหลือใช้หนี้ว่าจะทำวงต่อ แล้วแม่ก็ออกมาไลฟ์สดว่าแม่จะขายบ้านตองห้า มันไม่แปลกใจเลยที่คนเจอปัญหาแล้วจะฆ่าตัวตาย มันตันไปหมด
เคยไปถึงจุดนั้นด้วยหรอ
แม่นกน้อย : จุดนั้นด้วยค่ะ
บนความโชคร้ายยังมีความโชคดีเพราะวันที่เกิดไฟไหม้ ไม่ตรงโกดังที่เก็บรถเก็บของเวที หมดเลย แต่วันนั้นลมเปลี่ยนทิศ กำลังจะลามไปถึงบ้านคนงาน
แม่นกน้อย : ถ้าลมไม่เปลี่ยนทิศก็ไปหมดทั้งบ้านตองห้า
เสียหายมูลค่ารวมเท่าไหร่
แม่นกน้อย : เครื่องเสียงของพ่อหลอด ชุด ห้องสตู รถอีกหลายๆ คัน น่าจะประมาณ 20 กว่าล้าน
มีคอมเม้นท์แรง แก่ใกล้จะตายมาทำวงอีกทำไม อันนี้เป็นคำพูดที่โดนมา
แม่นกน้อย : บางครั้งแม่ก็ออกมาโพสต์แล้วทิ้งเบอร์โทรเลย สายตรงมาเลยข้องใจอะไร
รู้สึกยังไงที่คนคิดแบบนี้ เราเหนื่อยแทบตาย
แม่นกน้อย : แม่คิดเลยว่า เราเป็นดารา เราดัง คนสนใจ ถ้าเราเป็นคนธรรมดาทั่วไป ใครจะเข้ามาสนใจชีวิตเราหรอ ไม่เป็นไรเราเป็นดารา เรารับได้ คิดมุมนี้ค่ะถึงผ่านได้ เพราะมันเยอะมาก
เรียบเรียง news in thailand