บิ๊ก ผู้ใหญ่บ้านฟินแลนด์ ลั่นให้สังคมตัดสินเอง ปมโดนกีดกันไม่ให้เจอลูก
จากกรณีที่ก่อนหน้านั้น ทางบิ๊ก ผู้ใหญ่บ้านฟินแลนด์ ได้ยื่นขอสิทธิเลี้ยงดูลูก 3 ข้อให้อดีตภรรยา รอขึ้นศาลเดือน ก.ค. ล่าสุดได้เปิดใจเผยอาทิตย์ที่แล้วนัดไปหาลูก แต่ถูกยกเลิกตอนเช้า บอกแล้วแต่คนจะพิจารณา ไม่รู้เรียกโดนกีดกันไหม รับกลัวลูกไม่สนิท ไม่มีความผูกพัน โดยเจ้าตัวได้เผยว่า ตอนนี้อยู่ในขั้นตอนของการรอ แต่ศาลนัดแล้ว น่าจะเป็นเดือนกรกฎาคมนี้ ส่วนเรื่องที่อดีตภรรยาถูกโจมตีหนัก ก็ขอส่งกำลังใจให้แบบเชื่อมจิต
ตอนนี้ยังอยู่ในขั้นตอนของการรออยู่ ศาลนัดแล้ว แต่ว่ารอวัน น่าจะเป็นเดือนกรกฎาคม ถามว่าก่อนหน้านี้มีโทร.มาเจรจา หรือไกล่เกลี่ยไหม ก็โทร.มาแค่แจ้งว่าได้รับหมายศาลแล้ว แต่ก็ไม่เคลียร์อะไร ก็ไปเคลียร์กันที่ศาลเลย แต่เขาก็มีถามว่าต้องการอะไรเหรอ เราก็บอกว่าต้องการตามที่หัวข้อเลย เขาก็บอกว่าไปคุยกันในศาล (มีท่าทีว่าจะยอมกันได้ไหม จะได้ไม่ต้องไปถึงศาล?) เหมือนไม่มีอะไรที่เราได้ฟังเลย มีแต่ปัดเข้าศาลหมดเลย
อาทิตย์ที่แล้วนัดจะไปเจอลูก แต่เช้าวันไปเพิ่งมาบอกว่าลูกกลับพรุ่งนี้แทน
ไปล่าสุดเมื่อสัปดาห์ก่อน ไปถึงแล้วลูกไม่อยู่บ้าน ตอนนั้นเหมือนเรารู้ว่าลูกจะกลับวันนี้ ก็เลยวางแพลนจะไปหาลูก พอไปถึงเขาก็บอกว่าไม่ได้กลับแล้วนะ กลับวันถัดไป ก็เลยไม่ได้เจอลูก ก่อนไปก็แจ้ง คือผมมีคิวแสดงที่ยโสธรอยู่แล้ววันนั้น ผมก็แจ้งว่าจะไปหาลูกนะ เขาบอกจะกลับมาถึงตอนเย็น คุยกันก่อนเดินทาง 1 วัน พอตอนเช้าเขาก็ส่งข้อความมาบอกว่าไม่ได้กลับแล้ว เปลี่ยนเป็นกลับพรุ่งนี้ เราก็ตกใจ แต่ไม่เป็นไร มาใหม่ได้ ตอนนี้ลูกอยู่กับป้าเป็นหลัก (พี่สาวอดีตภรรยา)
จริงๆ ทำใจไว้แล้ว แต่วันนั้นคุยกันแล้วกลับไม่มา
เรารู้สึกว่าทำใจทุกเวลาอยู่แล้ว บางทีเขาอาจจะมีธุระด่วนหรือเปล่า แต่ความตั้งใจของเราคือ เรามีข้อความคุยกันว่าลูกจะกลับเวลานี้นะ ถึงเวลานี้นะ พอถึงวันมาก็ไม่เห็นมา
ไม่รู้เป็นการกีดกันไหม แล้วแต่คนจะพิจารณา นัดครั้งหน้า 11 มิถุนายนนี้ หวังว่าจะไม่มีธุระด่วนอีก
ผมไม่รู้ว่ากีดกันหรือเปล่า แล้วแต่คนจะพิจารณาเอาเอง ผมก็ไม่กล้าพูดเต็มปาก แต่จริงๆ ผมก็ตกใจที่ไม่ได้มา แต่ก็ไม่เป็นไร เดี๋ยวผมจะมารับลูกอยู่แล้ว บางคนอาจจะบอกว่าทำไมวันที่ลูกอยู่ถึงไม่มา แล้ววันลูกไม่อยู่ทำไมต้องดิ้นรนมา ให้เป็นเรื่องเป็นราว คือวันที่ลูกอยู่ผมก็ไม่ว่าง แต่วันที่ผมจะไปก็นัดกันแล้ว แจ้งแล้ว เราก็รับทราบว่าลูกจะกลับมาถึง เรานานๆ ทีเจอลูก ก็แอบมีความหวังว่าจะได้เจอลูกอยู่ เวลาได้เจอก็อยู่ด้วยกันทั้งวัน แต่รอบนี้ก็แจ้งว่าจะไปรับลูกอีกครั้ง 11 มิถุนายนนี้ หวังว่าจะไม่มีธุระด่วนอีก ถามว่ามีเผื่อใจไหม ก็เผื่อใจอยู่ แต่เราแจ้งออกสื่อขนาดนี้แล้วก็คงต้อง (หัวเราะ)
อยากให้ลูกมาร่วมงานวันเกิด
ใช่ ผมจัดงานวันเกิดวันที่ 12 มิถุนายน จัดในโรงแรม เชิญแขก เชิญพี่ๆ ในวงการไปเยอะอยู่ มีการ์ดชัดเจน จะมีลูก มีเพื่อนไปด้วย แจ้งให้เขารับทราบแล้วด้วย
กลัวได้เจอลูกน้อย แล้วลูกจะไม่สนิท ไม่ผูกพัน
ก็กลัวอยู่ เรื่องของความใกล้ชิด ลูกจะไม่สนิทกับเราเหมือนเดิม จะไม่คุ้นเคย ลูกชายคนเล็กเพิ่ง 1 ขวบ ผมคิดว่าลูกชายคนเล็กต้องหาวิธีเข้าหาใกล้ชิดอีกนิดหนึ่ง เราห่างจากลูกเดือนสองเดือนแล้ว มันเป็นช่วงที่เขากำลังจดจำพอดี แต่คำว่าพ่อลูกเป็นสายเลือด ผมว่ายังไงก็จูนกันง่ายอยู่แล้ว
นอกจากเจอหน้า ก็มีวิดีโอคอล อธิบายลูกตลอดว่าทำไมถึงไปหาไม่ได้
ก็ยังโชคดีที่คนโตอายุ 4 ขวบแล้ว เขาวิดีโอคอลเป็น ถ่ายรูปเป็น บางครั้งเขาก็กดโทร.มาหาเรา แต่ช่วงหลังไม่เห็นโทร.มาเลย พ่อจะโทร.ไปหา แต่ช่วงเดือนก่อนโทร.ตลอดนะ ครูก็ส่งข้อความมาหานะ ว่าน้องพูดถึงพ่อที่โรงเรียน บางทีเราโทร.ไปเขาไม่รับก็มี เขาอาจจะยุ่งอยู่ ที่เขารับสายก็มี ตอนที่ไม่รับสายอาจจะยุ่งหรือไม่สะดวก อาจจะมีเหตุจำเป็น
เวลาน้องโทร.มา ก็จะบอกว่าพ่อมารับหน่อย พ่อเมื่อไหร่จะมารับหนู เราก็จะบอกว่าเราทำงานอยู่ ทำงานเพื่อหนู
ก็อธิบายบอกเขา เวลาที่นัดแล้วไม่ได้เจอ เขาจะมีบอกว่าทำไมพ่อไม่มารับหนูเลย แต่เรามีเหตุผลที่จะบอกเขาได้อยู่ อาจจะบอกวันที่เจอกันอีกที ว่าไม่ได้มาเพราะอะไร เพราะ 4 ขวบ เขาจดจำแล้ว
ไม่รู้กระแสโจมตีอดีตภรรยา ไม่ได้กดติดตาม ไม่ได้ดูความเคลื่อนไหว ให้กำลังใจแบบเชื่อมจิต
ส่วนมากไม่ค่อยได้อ่าน มีแต่คนมาเล่าให้ฟังอย่างนั้นอย่างนี้ คือผมไม่ได้กดติดตาม ผมเป็นเพื่อนในเฟซบุ๊กกันอยู่ ก็คือกดอันฟอลโลว์ ไม่ได้ดูการเคลื่อนไหว คือรับฟังอยู่ว่าเขาเจอปัญหาอะไรต่างๆ เราก็เพียงแค่ส่งกำลังใจให้เขาสู้ๆ (ส่งยังไง?) ส่งผ่านจิตกระแส จะให้เราส่งข้อความไปมันก็คงไม่ใช่ ส่งกระแสจิต แบบเชื่อมจิต
ทุกสิ่งทุกอย่างอยู่ในตัวเรา ใครทำอะไรได้อย่างนั้น พลาดได้แต่อย่าพลาดบ่อย
ทุกสิ่งทุกอย่างอะไรก็ช่างมันอยู่ในตัวเรา คือถ้าเราแสดงอะไรให้มันดีมันก็ดี คือเราแสดงออกยังไงมันสะท้อนกลับมาหาตัวเราเองหมดเลยนะ อย่างเช่นวันนี้ที่ผมสัมภาษณ์ ผมสัมภาษณ์ดีมันก็ออกไปดีกลับมาหาเราดีเลย คือถ้าเราทำออกไปไม่ดีมันก็กลับมาหาเราไม่ดี เพราะฉะนั้นผมมองแล้ว มันเป็นเรื่องใครทำอะไรก็ได้อย่างนั้น ก็ส่งกำลังใจให้ ทุกๆ คนมันมีสิทธิ์พลาดพลั้งกันได้ แต่ก็อย่าพลาดบ่อย ให้รู้ตัวว่าตัวเองกำลังผิดพลาดอยู่ คือสังคมไทยอะเขาเป็นคนใจดี แต่สังคมไทยให้อภัยกับคนที่สำนึกผิด