ต้องรู้ 10 สรรพคุณรางจืด และข้อควรระวังที่ทุกคนไม่ทราบ

ต้องรู้ 10 สรรพคุณรางจืด และข้อควรระวังที่ทุกคนไม่ทราบ

หลายๆคนคงทราบดีแล้วว่า รางจืด เป็นชื่อของพืชสมุนไพรและมีสรรพคุณทางยามากมาย ซึ่งจะเห็นว่า มีผู้ใช้facebook รายหนึ่ง ได้แชร์ประโยชน์ของ รางจืด ว่าใช้ป้อนสุนัขที่โดนวางยาเบื่อ แล้วรอดชีวิตมาได้ ทำให้มีหลายคนๆคิดว่ารางจืดนั้นมีประโยชน์มากขนาดนั้นเลยหรอ วันนี้เราจะพาไปดูสรรพคุณและข้อเสียกัน

สรรพคุณทางยาของรางจืด

1.ใบ รากและเถา สามารถนำมาใช้ประโยชน์ในหลายลักษณะ เช่น นำมา ตากให้แห้งและบดบรรจุในแคปซูล นำมาต้มกับน้ำดื่ม หรือนำมาทำเป็นชาชงดื่ม

2.ใช้ใบหรือเถาสดประมาณ 10-15 ใบ หรือนำเถาขนาด 10 เซนติเมตร มา ต้มในน้ำประมาณ 10 ลิตร ต้มน้ำอาบแก้โรคผิวหนัง ลดอาการแพ้ ผดผื่นคัน โดยใช้อาบทุกวัน เป็นเวลา 5-7 วัน

3.นำดอกรางจืดมาบดให้ละเอียดผสมกับน้ำแล้วกรองแยกเอากากออกเอา น้ำซึ่งมีสีม่วงอ่อนหรือสีคราม ใช้ทำของหวาน ใช้หุงข้าว หรือทำสีธรรมชาติใช้ผสมลงในอาหาร

4.คนโบราณเชื่อว่า การดื่มน้ำรางจืดสามารถช่วยแก้คุณไสย ยาสั่งหรือ มนต์ดำ

5.ใบรางจืดตากแห้งแล้วนำมาบดให้ละเอียดใช้ผสมอาหารหมู อาหารไก่ จะช่วยเสริมภูมิต้านทานต่อโรค และช่วยรักษาให้สัตว์มีอัตราการรอดสูงขึ้นเมื่อเป็นโรค

6.ทุกส่วนของต้นรางจืดมีสารต้านอนุมูลอิสระสามารถออกฤทธิ์กำจัดสาร ตั้งต้นของเซลล์มะเร็ง ดังนั้นจึงช่วยต้านการเกิดเซลล์มะเร็งและลดจำนวนเซลล์มะเร็ง นอกจากนี้ยังช่วยชะลอความเสื่อมของเซลล์ ช่วยป้องกันเซลล์จากสารพิษ ทำให้ผิวสดใส ผิวพรรณเต่งตึงและช่วยต้านการแก่

7.นำทุกส่วนมาต้มดื่ม ใช้แก้พิษ ยาเบื่อ ทำลายและกำจัดสารพิษ

8.นำทุกส่วนของรางจืดมาตำหรือบดผสมน้ำ ใช้พอกแผล ระงับอาการปวด ลดอาการบวม และกำจัดพิษจากสัตว์ต่อย เช่น งูกัด แมงป่อง ตะขาบ แมงดาทะเล

9.ทุกส่วนของรางจืดช่วยลดและกำจัดสารพิษของเห็ดพิษทำให้บรรเทา อาการจากพิษเห็ดและรักษาพิษจากเห็ดพิษ

10.ทุกส่วนออกฤทธิ์ต้านการอักเสบเพิ่มประสิทธิภาพการรักษาแผล เช่น รักษาไวรัสเริม อีสุกอีใสและงูสวัด ด้วยการบดผมน้ำเล็กน้อย ก่อนนำไปประคบบริเวณรอยแผลเริม

ข้อควรระวังที่ผู้ใช้ต้องรู้คือเนื่องจากรางจืดเป็นสมุนไพรเดี่ยวจึงไม่เหมาะ สำหรับกินต่อเนื่องกันเป็นระยะเวลานานเพราะอาจมีผลกับตับ ไต และระบบเลือด อย่างไรก็ตามพืชสมุนไพรชนิดนี้มีประโยชน์มากมายมหาศาลหากปลูกไว้ตามบ้านก็เหมือนมียาที่รักษาได้สารพัดโรค การปลูกต้นรางจืดนั้นทำได้ไม่ยากเพราะว่าไม่ต้องดูแลอะไรมากและไม่ค่อยมีโรคและแมลงรบกวน การปลูกนั้นทำโดยใช้กิ่งปักชำ กิ่งตอน หรือต้นที่ได้จากการเพาะเมล็ดมาปลูกลงดินรอบบ้านหรือกำแพงรั้ว สิ่งที่ผู้ปลูกจะได้รับก็คือมียาไว้ใช้ในครอบครัวแล้วมีไม้ประดับที่มีดอกอันสวยงามไว้ประดับบ้าน

ข้อมูลจาก สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ