หนุ่มพนักงานห้าง ขี่จยย.ตกคลองดับ
วันที่ 7 ม.ค.2567 ร.ต.ท.กริชพล จูห้อง รองสารวัตร(สอบสวน) สภ.เมืองตรัง รับแจ้งเหตุรถจักรยานยนต์เสียหลักพุ่งตกคลองชลประทาน เสียชีวิต 1 ราย ขณะเดียวกันเกิดเหตุซ้ำซ้อน รถกระบะเสียหลักพุ่งตกคลองชนประทาน มีผู้บาดเจ็บ 2 ราย บริเวณถนนเลียบคลองชลประทาน ม.1 ต.บ้านควน อ.เมือง จ.ตรัง
หลังรับแจ้งจึงรุดไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิกุศลสถานตรัง (บ๊วนเต็กเซี่ยงตึ๊ง) หน่วยกู้ชีพ โรงพยาบาลตรัง แพทย์เวร โรงพยาบาลตรัง ตำรวจสายตรวจตำบล และกำลังฝ่ายปกครองในพื้นที่
ที่เกิดเหตุพบรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า เวฟ 100 ทะเบียน 1กช6337 ตรัง สภาพตกอยู่ในน้ำที่มีความลึกประมาณ 1 เมตร สภาพพังเสียหาย คนขับจมน้ำเสียชีวิตติดอยู่กับตัวรถ ตรวจสอบเอกสารทราบชื่อ นายทัศนะ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 40 ปี พนักงานห้างสรรพสินค้าชื่อดัง เจ้าหน้าที่นำร่างและรถขึ้นมาจากน้ำ พบผู้เสียชีวิตมีบาดแผลถูกกระแทกที่บริเวณศีรษะ นำร่างส่งชันสูตรพลิกศพอย่างละเอียดที่โรงพยาบาลตรัง
ห่างไป 40-50 เมตร เป็นเหตุซ้ำซ้อน พบรถกระบะ ยี่ห้อโตโยต้า วีโก้ เสียหลักพุ่งลงในชลประทาน สภาพหัวรถพังยับเยิน มีคนขับและคนนั่งข้าง เป็นแฟนกัน 2 ราย ชื่อ นายสิทธิชัย (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี เป็นคนขับ และ น.ส.สุชาวดี (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 22 ปี คนนั่งข้าง บาดเจ็บเล็กน้อย เจ้าหน้าที่และชาวบ้านต้องเร่งช่วยเหลือนำออกมาจากรถ ส่งโรงพยาบาลตรัง
จากการสอบถาม นายสิทธิชัย กล่าวว่า ตนขับรถกลับมาจากงานเลี้ยงปีใหม่ เพื่อจะเดินทางกลับบ้าน ที่เหลือเพียงแค่ไม่ไกลแล้ว เมื่อมาถึงก็ไม่ได้เห็นอะไร ก่อนจะพุ่งตกลงคลองชลประทาน
สอบสวนทราบว่า ถนนสายดังกล่าวมีความมืดเป็นระยะทางยาว ไม่มีไฟฟ้าส่องสว่าง และมีคลองชลประทานเลียบกับถนน และเพิ่งจะมีการปล่อยน้ำเข้าคลองชลประทานประมาณ 1 วัน โดยช่วงเวลาประมาณ 00.10 น. ชาวบ้านในละแวกดังกล่าวได้ยินเสียงดัง และมีเสียงสุนัขเห่า ห่างไปสักพักหนึ่งจึงรีบออกกันมาดู
ปรากกฏว่า พบรถจักรยานยนต์พุ่งตกลงน้ำส่วนคนขับจมอยู่ในน้ำแล้ว และมีการโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ ทำให้มีชาวบ้านและรถที่ผ่านไปมาจอดดูเต็มถนน ประกอบกับรถกระบะคันที่เกิดเหตุซ้ำซ้อน ได้ขับผ่านมาพบเจอเหตุการณ์เข้าพอดี เกิดเสียหลักพุ่งตกลงคลองชลประทานเป็นคันที่ 2 แต่โชคดีที่เหตุการณ์ซ้ำซ้อนมีเพียงแค่ผู้บาดเจ็บเล็กน้อย
อย่างไรก็ตาม ถนนสายดังกล่าว ปัจจุบันมีผู้ใช้ขับสัญจรเป็นจำนวนมาก รวมทั้งมีบ้านเรือนประชาชนขยับขยายออกจากเมืองไปสร้างที่อยู่อาศัยจำนวนมาก และมีการขับขี่กับด้วยความเร็ว แต่ปรากฏว่าถนนทั้งสองฟากฝั่งมืดเป็นอย่างมาก ไม่มีไฟส่องสว่างแต่อย่างใด และที่ผ่านมาเคยเกิดอุบัติเหตุในช่วงมืดค่ำเช่นนี้มาแล้วบ่อยครั้ง
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างดำเนินการสืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริง และสอบปากคำผู้บาดเจ็บและผู้ที่เกี่ยวข้อง เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป