พ่อแบม พยานสำคัญ เล่านาทีถูก ลุงพล ขู่ จะเข้ามาทำร้าย
20 ธ.ค. 2566ศาลจังหวัดมุกดาหาร นัดฟังคำพิพากษา คดีการเสียชีวิตของ น้องชมพู่ วัย 3 ขวบ ที่หายตัวไปจากบ้านกกกอก ก่อนจะพบว่าเสียชีวิต
โดยจำเลยในคดีนี้มี 2 คน คือ ลุงพล-ไชย์พล วิภา จำเลยที่ 1 ถูกสั่งฟ้อง 3 ข้อหา คือ
1.เจตนาฆ่าโดยเล็งเห็นผล
2.ทอดทิ้งเด็กอายุไม่เกิน 9 ปี เป็นเหตุให้เด็กถึงแก่ความตาย
3.กระทำการใดๆ แก่ศพหรือสภาพแวดล้อมในบริเวณพบศพก่อนชันสูตรพลิกศพเสร็จสิ้น
นายวัชรินทร์ กงแก่นท้าว หรือ พ่อแบม พยานปากสำคัญ กล่าวภายหลังศาลจังหวัดมุกดาหาร อ่านคำพิพากษาคดีที่อัยการจังหวัดมุกดาหาร เป็นโจทก์ ฟ้อง นายไชย์พล วิภา หรือ ลุงพล จำเลยที่ 1 ในคดีการเสียชีวิตของ น้องชมพู่ ว่า อย่างแรกคือขอบคุณศาลจังหวัดมุกดาหารที่ให้ความยุติธรรมแก่น้องชมพู่ สำหรับความรู้สึกของตนดีใจที่ได้รับความยุติธรรมในครั้งนี้
นายวัชรินทร์ กล่าวต่อว่า ย้อนกลับครั้งแรก ยอมรับว่า ตอนที่ตำรวจมาสอบปากคำถึงที่บ้าน ก็รู้สึกกลัว แต่ถ้าไม่พูดอะไร ก็กลัวว่าจะมีเหตุการณ์ไม่ดีเกิดขึ้น ก็เลยต้องพูดอะไรสักอย่าง ทำให้ตัดสินใจพูดความจริงออกมาว่าจำเลยมีพิรุธมาก วันที่เกิดเหตุ จำเลยเข้ามาพูดกับตนให้เปลี่ยนเวลา เพราะเวลานั้นคือเวลาเด็กหาย เปลี่ยนจากเรื่องความจริงให้เป็นอีกเรื่อง
นายวัชรินทร์ กล่าวอีกว่า โดยในวันนั้น ลุงพลจะเข้ามาทำร้ายตัวเอง และมีลูกชายตนอยู่ด้วยก็เลยไม่กล้าทำร้าย และพยายามบังคับ พูดจาข่มขู่ มีการบังคับให้ตนเปลี่ยนเวลาและวันที่ตลอด แต่ตนก็ยังยืนยันคำให้การเดิม
นายวัชรินทร์ กล่าวด้วยว่า อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่ากลัวและมีความกังวล ว่าถ้าลุงพลได้รับการประกันตัวออกมาจะถูกคุกคาม เพราะที่ผ่านมาก็เคยถูกคุกคาม เพราะพยายามที่จะทำร้ายร่างกายด้วย