อ้อน เกวลิน เปิดใจความรักต้องห้าม ชีวิตสุดลำบากเหลือเงิน 400

อ้อน เกวลิน เปิดใจความรักต้องห้าม ชีวิตสุดลำบากเหลือเงิน 400

หายหน้าหายตาไปจากวงการบันเทิงนานกว่า 10 ปี สำหรับ อ้อน เกวลิน คอตแลนด์ อดีตนักร้อง นางเอกสาวชื่อดัง ล่าสุด ได้มาเปิดใจเรื่องราวชีวิตที่ไม่เคยเปิดเผยที่ไหนผ่านทางรายการ คุยแซ่บ show

อ้อน เกวลิน เปิดเผยถึงสาเหตุที่หลายคนๆ บอกว่าหายไปนาน ว่า ในใจอ้อนก็ไม่ได้หายนะ แต่ว่าแค่ไม่ได้รับละคร คนจะติดภาพเราเล่นละครบ่อย แล้วพออ้อนแบบไม่รับละครเลยก็เลยหายไป จบจากละครปุ๊บก็ไปเป็นนักร้องเต็มตัว แล้วหลังจากนั้นก็เดินสายทัวร์คอนเสิร์ต มีเพลง ก็กลายเป็นว่าภาพละครคือหายไปเลย

ทั้งนี้ อ้อน อัพเดตชีวิตส่วนตัวด้วยว่า ตอนนี้มีลูก 2 คนแล้ว คนแรก ชื่อ อิคคิว อายุ 10 ขวบ คนที่สอง ชื่อ ไอคอน อายุ 4 ขวบ ซึ่งจริงๆ แล้วอิคคิวเป็นบุตรของสามี ไม่ได้แต่งงาน โดยมาแต่งงานกับอ้อน ซึ่งอ้อนเลี้ยงมาตั้งแต่แบเบาะ

เดิมทีอ้อนไม่ได้เป็นคนรักเด็ก เป็นคนเลือกที่จะทำงาน แล้วด้วยความที่ทำงานมาตั้งแต่เด็กๆ แล้วไม่เคยอุ้มหลานคนไหนในบ้านเลย และก็ไม่ชอบเด็ก เวลาทำงานก็จะบอกว่าไม่ชอบเด็กเลยแล้วต้องมาดูแล คำเดียวก็คือ รักแฟนแล้วรักทุกคนที่เกี่ยวข้อง

อดีตนักร้องสาว ยังเปิดเผยด้วยว่า เคยลำบากมากที่สุดตอนที่เหลือเงินแค่ 400 บาทในกระเป๋า อ้อนเคยมีเงินเหลือแค่ 400 บาทในชีวิต ตอนนั้นเราก็เข้าวงการแล้ว คือมันมีช่วงหนึ่งที่อ้อนไปทำธุรกิจส่วนตัว แล้วเรารอเงินที่มันจะเกิดขึ้น ช่วงเวลานั้นก็มีแค่นั้นจริงๆ

กับสามี ก็เลยทำให้ความรักที่มีต่อสามี เรามองไม่เห็นเลยว่าเราจะทะเลาะกันได้วันไหน เรามองไม่เห็นเลยว่าเราจะมีวันเลิกกับเขา เพราะเราผ่านความลำบากมาด้วยกัน

อ้อนเผยด้วยว่า คุณแม่เล่าให้ฟังว่าแต่ก่อนแม่เลี้ยงลูกมาทุกคน อ้อนเป็นพี่คนโตแล้วมีน้องสาวอีก 2 คน ก็เลยรู้เลยว่าแม่กว่าจะเลี้ยงเราลำบากมาก เขาบอกว่าเขาล่ามโซ่ขาลูกเอาไว้แล้วเขาก็ทำงาน ต้องรอพ่อกลับมาก่อนที่จะได้กินข้าวจานเดียวกันหมายความว่าแม่ไม่สามารถเหลือเงินที่จะซื้อข้าวได้อีกจาน ต้องรอกินพร้อมพ่อ แล้วเงินที่เหลือก็เป็นค่านมให้อ้อนกับน้องสาว

เราเห็นความยากลำบากของแม่ พอโตขึ้นมาหน่อยบ้านเราอยากจะกินหมอนทอง แม่ก็เล่าให้ฟังว่า ต้องไปกู้เขาลูก กู้เงินเพื่อได้กินหมอนทองกันทั้งบ้าน แล้วพวกเราก็นั่งล้อมวง ตั้งหน้า ตั้งตาเพื่อจะได้กินของอร่อย

อดีตนางเอกสาว เล่าถึงชีวิตก่อนเข้าวงการว่า อ้อนมีชื่อเสียง มีละครให้ทุกคนได้เห็น มาจากการเลือกในวันนั้นของพี่ดู๋ สัญญา หลังจากที่เราชนะคอฟฟี่เมตชาเลนจ์ เรายังไม่มีโอกาสได้ร้องเพลง แต่มีพี่เขาพาไปแคสติ้งบริษัทหนึ่ง แล้วนั่นคือผลงานชิ้นแรกที่พี่ดู๋เป็นผู้กำกับครั้งแรก แกก็เลยอยากมีส่วนร่วมในการแคสติ้ง นั่นก็คือวันแรกที่อ้อนได้เจอพี่ดู๋ พี่ดู๋บอกให้ทำอะไรอ้อนทำหมดเลย แล้วพี่ดู๋ก็เลยบอกว่า ฉันเอาคนนี้

ปรากฎพอวันไปออกกองถ่ายจริงๆก็เรียบร้อยเลย อยู่ๆเป็นอะไรไม่รู้ ทำอะไรไม่ได้สักอย่าง อ้อนกลายเป็นนักแสดงที่เดินไปด้วยพูดไปด้วยไม่ได้ ต้องหยุดแล้วค่อยพูด ถึงขั้นพี่ดู๋พูดใส่หน้าอ้อนว่าพี่ผิดเองที่เลือกเรา ตอนนั้นเราก็รู้สึกไม่อยากอยู่แล้ว รู้สึกขอโทษมากๆ ร้องไห้ไม่รู้กี่รอบ แล้วบอกกับตัวเองว่าฉันจะไม่เล่นละครอีกต่อไป แต่มาอีก 50 เรื่อง

ตั้งแต่นั้นมา อ้อนไม่เคยมีโอกาสได้บอกพี่ดู๋เลย เพราะอ้อนรู้สึกว่าอ้อนกลัวพี่ดู๋ อยากขอบคุณพี่ดู๋มากๆ ที่เลือกอ้อนวันนั้น พี่เลือกไม่ผิด แล้วอ้อนมามีทุกอย่างวันนี้ได้ ครอบครัว แล้วลูกๆหลานๆที่นั่งอยู่ตรงนี้ มาจากการที่พี่ตัดสินใจเลือกอ้อนในวันนั้น ไม่รู้จะกราบขอบพระคุณและทดแทนบุญคุณพี่ยังไง ขอบคุณมากๆ

หลายคนบอกว่าอ้อนแต่งงานกับสามีรวย สามีเลี้ยงก็เลยหายไปจากวงการนั้น อ้อน เผยว่า ไม่ใช่เลย คือจริงๆ อ้อนบอกก่อนว่าอ้อนเป็นคนเชื่อเรื่องเดสตินี่ มาก เพราะว่าเราเชื่อว่าความรักของพ่อกับแม่เป็นไอดอลของอ้อน

พ่อกับแม่เล่าให้ฟังว่ากว่าที่แกจะรักกันได้ แกส่งจดหมายหากัน แล้วแม่ได้รับจดหมายจากพ่อถึง 5 ปี เต็มหีบเลยแต่ก็สามารถอยู่ด้วยกันได้แล้วความตายก็แยกทั้งคู่ออกจากกัน อ้อนเชื่อว่าถ้าของที่มันใช่มันก็จะอยู่กับเรา แต่ถ้าของที่มันไม่ใช่ต่อให้รักกันมากแค่ไหนมันก็ไม่อยู่ เพราะฉะนั้นอ้อนเลยอยู่กับเขา เราเจอกันเป็นพี่ เป็นน้อง สวัสดีกัน แค่นี้ 5 ปี

ถามว่าเป็นรักต้องห้ามหรือเปล่า ไม่ คือ พอรักแล้วมันดันมีประเด็นสั่งห้ามว่าไม่ให้รักกัน แต่ก่อนหน้านี้อ้อนไม่เคยสปาร์คกับเขานะคะ คือรู้สึกเป็นพี่เป็นน้องจริงๆ จนกระทั่งได้มีโอกาสได้นั่งคุยแล้วได้แลกไลน์ ประเด็นคืออ้อนอยากจะไปซื้อหนังสือ แล้วเขาชอบอ่านหนังสือ เขาแนะนำหนังสือให้อ้อนเล่มหนึ่ง

อ้อนแค่อยากจะบอกว่า อ้อนไปซื้อถูกเล่ม ส่งให้พี่ดูนะ แค่นั้นเอง แล้วหลังจากนั้นเขาก็เริ่มคุยกินข้าวหรือยัง ทำอะไร แล้วเรารู้สึกว่าเราอยากคุยกับเขา ทำไมรู้สึกดีจังเวลาได้คุยกับเขา

อ้อน เผยด้วยว่า สิ่งห้ามไม่ให้ทั้งคู่รักกัน คือ ธุรกิจที่ทำมีกฎของผู้บริหารว่าห้ามรักกัน คิดว่าที่ไปที่มาของกฎมาจากการที่คู่อื่นๆ ทำไว้ไม่ค่อยดี คู่อื่นๆทำให้รูปแบบธุรกิจมันเสียหาย แล้วมีการเสียผลประโยชน์ของธุรกิจเกิดขึ้น ก็เลยถูกสร้างกฎนี่ขึ้นมา ตอนนั้นก็แหกกฎ กลายเป็นคู่เดียวแล้วคู่สุดท้ายของบริษัท

ทุกวันนี้ก็ยังทำงานอยู่ที่บริษัทเดิม ซึ่งมีการลงโทษด้วย แต่ถ้าบอกนี่คือละครเรื่องหนึ่งเลยนะ ก็ห้ามคุย ห้ามเจอ ไม่งั้นจะถูกเก็บภาพไปฟ้อง ยิ่งกว่าสมัยตอนเป็นดาราอีก โดยบทลงโทษก็คือ ถูกแบนไม่ให้ขึ้นสอน ไม่ให้ขึ้นเป็นเทรนเนอร์บนเวที แล้วสื่อการให้ความรู้บนเวทีถูกถอดออกทั้งหมด แล้วพี่นิคมโดนไล่ให้ไปบวชเป็นพระ

อ้อนวางงานเป็นหลักอยู่แล้ว เพราะเรารับผิดชอบ โตเป็นผู้ใหญ่พอรู้ว่าอะไรสำคัญ เรื่องความรัก และเรื่องครอบครัวคือเป็นเรื่องรองอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นอ้อนจะเจอเขาเดือนหนึ่งไม่เกิน 5 วัน แล้วจะเจอในเส้นทางที่ป้ะเจอกันพอดี หมายถึงว่าเขาอยู่แถวนั้นพอดี พอเจอกันก็มีคนเก็บภาพไปบอกผู้บริหารใหญ่

เรียบเรียงโดย ทีมงาน zap dara

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ