ด่วน คนร้าย บุกฆ่าหนุ่มป่วยซึมเศร้า เสียชีวิตคาห้องนอน
วันที่ 28 พ.ย. 66 ที่ผ่านมา พ.ต.ท.ธนาธร พันธุ์ชู สารวัตร(สอบสวน) สภ.เมืองนครศรีธรรมราช รับแจ้งเหตุพบศพถูกฆาตกรรมทิ้งไว้ในห้องนอนชั้นสอง เหตุเกิดในบ้านสองชั้น ซอยบ้านในสวน ตรงข้ามสำนักงานบังคับคดีนครศรีธรรมราช ถนนเทวบุรี ต.โพธิ์เสด็จ อ.เมืองนครศรีธรรมราช จ.นครศรีธรรมราช จึงไปตรวจสอบพร้อม แพทย์เวรชันสูตร เจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน และเจ้าหน้ารที่กู้ภัยเต็กก่าจี้คุงเกาะ
เกิดเหตุหนุ่มป่วยซึมเศร้าถูกฆ่า พบว่าเป็นบ้านปูนสองชั้นสภาพเก่า ด้านล่างไม่มีคนอาศัย ส่วนชั้นบนพบว่ามีห้องนอน 2 ห้อง โดยห้องนอนด้านทิศเหนือ ภายในห้องบนที่นอนพบศพชาย อายุ 23 ปี ใต้ตาข้างซ้ายมีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบขนาด โหนกแก้มซ้าย
และนิ้วนางซ้ายมีบาดแผลถูกของมีคม อยู่ในชุดกางเกงขาสั้นตัวเดียวไม่สวมเสื้อ เสียชีวิตมาแล้วไม่น้อยกว่า 12 ชั่วโมง บนที่นอนพบโทรศัพท์และปลั๊กต่อพวงเปิดสวิตช์ชาร์จไว้
จากเหตุหนุ่มป่วยซึมเศร้าถูกฆ่าดังกล่าว สอบถามแม่ของผู้เสียชีวิต ระบุว่า บ้านหลังเกิดเหตุเป็นบ้านของนายจ้างที่ได้ให้อาศัย ปกติจะอยู่ด้วยกัน แต่ตัวเองได้ไปทำธุระที่บ้านลานสกา แต่ไม่สามารถติดต่อกับลูกชายได้เลย และมีญาติที่อยู่ด้วยกันเรียกไม่ตอบ โทรไม่รับสาย จึงไปรับตัวเองที่ลานสกามาดู ปรากฎว่าต้องใช้บันไดปีนเข้าไปทางระเบียงชั้น 2 เปิดประตูจากข้างนอกเข้าไป พบว่าลูกชายเสียชีวิตอยู่ในสภาพถูกยิงและถูกทำร้ายไปแล้ว โดยประตูถูกปิดล็อก ซึ่งลูกชายไม่เคยเล่าเรื่องมีปัญหาอะไรกับใคร และยังเป็นผู้ป่วยโรคแพนิก และโรคซึมเศร้า ซึ่งต้องรับยาที่ รพ.มหาราชนครศรีธรรมราช เป็นประจำ
อย่างไรก็ตาม เหตุหนุ่มป่วยซึมเศร้าถูกฆ่าครั้งนี้ ญาติผู้พี่และเพื่อนสนิทที่มาช่วยเรียกตามหาผู้เสียชีวิต บอกว่า พบกันครั้งสุดท้ายเมื่อช่วงเย็นวันเสาร์ที่ผ่านมา หลังจากนั้นไม่สามารถติดต่อกันได้ จนกระทั่งไปรับแม่ของผู้เสียชีวิตมาดู จึงพบว่าเสียชีวิตแล้ว โดยช่วงค่ำวันเสาร์ขณะที่นอนอยู่ในห้องใกล้กัน ได้ยินเสียงมีคนขับรถมาหา แต่ไม่รู้ว่าเป็นใคร และไม่ได้สงสัยอะไร จนกระทั่งติดต่อผู้เสียชีวิตไม่ได้ จึงพยายามค้นหาจนพบว่าถูกยิงเสียชีวิตอยู่ในห้อง
ทั้งนี้เจ้าหน้าที่เก็บหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์อย่างละเอียด เพื่อหาร่องรอยของบุคคลที่เข้ามาในห้องที่เกิดเหตุ ขณะที่ชุดสืบสวนออกติดตามรวบรวมภาพจากกล้องวงจรปิดจากบริเวณใกล้เคียง เพื่อค้นหารูปพรรณผู้ต้องสงสัยในการก่อเหตุอย่างเร่งด่วนแล้ว