จากกรณีที่ ต้องเต ธิติ ศรีนวล ผู้กำกับภาพยนตร์ สัปเหร่อ ออกมาพูดถึงเรื่องการผลักดันหนังไทยให้เป็น Soft Power ว่า ประเด็นที่ผู้ดำเนินรายการสอบถามถึงการโกอินเตอร์ของภาพยนตร์ “สัปเหร่อ” รวมทั้งกลายเป็นหนังซอฟต์เพาวเวอร์ โดย ต้องเต เปิดเผยตอนหนึ่งว่า ถ้ามีเรื่องอื่นที่ดีแล้วพาเขาไป ให้มาซัพพอร์ตจริงๆ หน่อย ไม่ใช่แค่มาถ่ายรูป คุณอาจไม่เข้าใจหนังสัปเหร่อจริงเลยๆ ก็ได้ แค่มาถ่ายรูปแล้วก็บอกว่าหนังสัปเหร่อเป็นซอฟต์เพาเวอร์ ตัวผมเองยังไม่รู้ว่าซอฟต์เพาเวอร์คืออะไร” จนกลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ็ในโลกออนไลน์จำนวนมาก

ล่าสุด ต้องเต ขอออกมาชี้แจงอีกรอบ วันที่ 6 พฤศจิกายน 2566 ผ่านรายการ Live กรรมกรข่าว คุยนอกจอ โดยต้องเตได้บอกว่า ความรู้สึกไม่อยากให้เกิดดราม่าและรุนแรงขนาดนั้น จริงๆคือหนังเป็นโมเดลใหม่ ที่ผมพูดไปสำหรับเรื่องหนังของผมมันไม่ทันแล้ว มันอยู่ในปลายทางของหนังแล้ว ผมพูดโดยการที่ไม่รู้ระบบ ไม่เข้าใจระบบของการดำเนินของส่วนภาครัฐ ผมอาจจะใจร้อนด้วย

ที่อยากสื่อจริงๆคือ อยากเป็นกระบอกเสียงในการขับเคลื่อน เพราะว่ากระแสหนังต้องเข้าใจว่า กระแสหนังมันเป็นแป๊ปเดียวและหายไปเลย ถ้าไม่มีระบบมารับรองทันหรืออาจจะเสียระบบการผลักดันภาพยนตร์เรื่องนี้ไปเลย ถ้าเรื่องนี้เป็นโมเดล อาจเป็นโมเดลในเรื่องต่อๆไปในอุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทยด้วย

อยากสะท้อนว่า ถ้าภาครัฐฯ อยากซัพพอร์ตหรือสนับสนุนจริงๆ วงการอุตสาหรกรรมหนังค่อนข้างมีกระแสสแป๊ปเดียว ถ้าเราช้าอาจผลักดันไม่ทันไปไกลขึ้น

ยืนยันว่า ก่อนหน้านี้ไม่รู้ว่าซอฟต์พาวเวอร์คืออะไร หลังๆก็ไม่เข้าใจด้วยว่าความรู้ที่เรารู้เกี่ยวกับซอฟต์พาวเวอร์ มันถูกหรือเปล่า ผมรู้สึกว่าซอฟต์พาวเวอร์ มันคือกระบวนการเกิดค่านิยมอย่างใดอย่างหนึ่งรึเปล่า คือสิ่งที่ผมเข้าใจ ผมแค่ งง แต่ งง ในทีนี้ก็คือขอบคุณและยินดีกับคำว่า สัปเหร่อเป็นซอฟต์พาวเวอร์ แต่ งง ผมในส่วนของคนทำงานจริงๆถ้าเข้าใจว่าซอฟต์พาวเวอร์ คืออะไร จะมีการผลักดันซอฟต์พาวเวอร์จริงๆ ผมอาจจะทำการบ้านและทำให้หนังเรื่องนี้มันทำซอฟต์พาวเวอร์ของมันจริงๆ และทำให้ได้