จากข่าวที่เจ้าชายอับดุล มาทีน โบลเกียห์ พระราชโอรสในสมเด็จพระราชาธิบดี สุลต่าน ฮัจญี ฮัสซานัล โบลเกียห์ มูอิซซัดดิน วัดเดาละห์ แห่งบรูไนดารุสซาลาม มีกำหนดเข้าพิธีเสกสมรสกับ อนิชา อิซา คาเลบิก ในเดือนมกราคม 2567 เนื่องจาก เจ้าชายอับดุล มาตีน โบลเกียห์ เจ้าชายลำดับที่ 4 แห่งราชวงศ์บรูไน ที่ทรงติดอันดับ 1 ในเชื้อพระวงศ์ที่ฮอตที่สุดในโลก ทำให้ใคร ๆ ต่างก็อยากรู้ว่าหญิงสาวผู้คว้าหัวใจของเจ้าชายแห่งบรูไนไว้ได้คือใคร

สำหรับ อนิชา คาเลบิก หรือชื่อเต็มว่า อนิชา อิซา คาเลบิก อยู่ในกลุ่มพระสหายของเจ้าชายอับดุล มาทีน ก่อนจะขยับฐานะมาเป็นคนรู้ใจ เธอเป็นหลานสาวของ เปฮิน ดาโต๊ะ ฮาจิ อิซา ที่ปรึกษาขององค์สุลต่าน และหนึ่งในผู้ก่อตั้งสายการบินรอยัล แอร์ไลน์

อนิชา คาเลบิก มีเชื้อสายโครเอเชียมาจากฝั่งบิดา เป็นที่มาแห่งความงามแบบตะวันออกและตะวันตกที่ผสมสานกันอย่างลงตัว เธอเติบโตและใช้ชีวิตส่วนใหญ่ในวัยเยาว์ที่ประเทศอังกฤษ โดยจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยบาธ ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยประจำเมืองใหญ่แห่งหนึ่งของอังกฤษ

นอกจากจะเป็นเจ้าของแบรนด์แฟชั่นของตัวเองที่ชื่อว่า Silk Collective แล้ว เธอยังทำธุรกิจด้านการท่องเที่ยวร่วมกับเพื่อน ๆ โดยเปิดเป็นบริษัทที่ชื่อ Authentinerary ให้บริการวางแผนการสำหรับผู้ที่ต้องการท่องเที่ยวอย่างมีรสนิยม และสัมผัสวัฒนธรรมท้องถิ่น

เธอยังเป็นน้องสาวของพระสหายสนิทของเจ้าชายอับดุล มาทีน อย่าง แดเนียล อิซา คาเลบิก มหาเศรษฐีหนุ่มชาวบรูไน ซึ่งเพิ่งเข้าพิธีสมรสกับ เจนธิรา อรรถสกุลชัย ทายาทเจ้าของธุรกิจนมเปรี้ยว บีทาเก้น ไปเมื่อปีที่แล้วอีกด้วย

ไม่เพียงแต่จะเข้ากันได้ดีทั้งในด้านการศึกษาและภูมิหลัง ทั้งคู่ยังมีความสนใจร่วมกันหลายประการอีกด้วย เจ้าชายอับดุล มาทีน และอนิชา ต่างก็ชอบกีฬา เธอยังชอบทำอาหารและมีเพจอินสตาแกรมสำหรับโชว์การทำอาหารซึ่งมีผู้ติดตามกว่า 23.2 หมื่นฟอลโลเวอร์อีกด้วย

ข่าวลือความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองได้รับการสังเกตตั้งแต่ปีที่แล้ว ทั้งคู่ปรากฏตัวพร้อมกันในงานแต่งงานของน้องสาวของเจ้าชายอับดุล มาทีน เมื่อเร็ว ๆ นี้ และงานราชวงศ์อื่น ๆ อีกมากมาย งานแต่งงานที่กำลังจะมาถึงของเจ้าชายอับดุล มาทีน และ อนิชา คาเลบิก จะเป็นงานที่สำคัญที่สุด และเป็นที่รอคอยของราชวงศ์บรูไนในต้นปีหน้า

สำหรับพิธีเสกสมรสระหว่างเจ้าชายอับดุล มาทีน และ อนิชา คาเลบิก จะเริ่มตั้งแต่วันที่ 7 ม.ค. 67 ซึ่งเป็นวันขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตการเสกสมรสอย่างเป็นทางการ จากนั้นจึงเป็นพิธีหมั้นและสมรสในวันที่ 9-10 ม.ค. ตามด้วยพระราชพิธีทางศาสนาในวันที่ 11 ม.ค. และปิดท้ายด้วยงานพระราชทานฉลองเสกสมรส ซึ่งจะสิ้นสุดลงในวันที่ 16 ม.ค. 2567